คิงส์เมน ส่งสัญญาณถึงผู้ถือหุ้นอย่าลืมใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ “K-W2” รอบแรกเดือนส.ค.นี้

211
0
Share:

นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ.จํากัด (มหาชน) (“K”) ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและตกแต่งงานแบบครบวงจร 4 ประเภท ประกอบด้วย1.ธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interiors), 2.ธุรกิจงานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions), 3.ธุรกิจการตลาดทางเลือก (Alternative Marketing) และ 4.ธุรกิจงานพิพิธภัณฑ์และสวนสนุกแนวคิด (Museums & Thematic Park) เปิดเผยว่า ภายหลังที่บริษัทฯออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 (K-W2) โดยมีอายุ 1 ปี นับแต่วันที่ออกและเสนอขาย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 79,922,412 หน่วย ในอัตรา 6 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยสามารถใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในทุก ๆ 3 เดือนนั้น

ทางบริษัทฯขอแจ้งไปยังผู้ถือหุ้นว่า ภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะครบกำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิแปลงสภาพ K -W2 รอบแรกในวันที่ 31 สิงหาคม 2566 โดยบริษัทฯได้เตรียมเปิดให้ผู้ถือหน่วยแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ K-W2 ได้ระหว่างวันที่ 24-30 สิงหาคม 2566 ที่อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยวอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ ในราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ 0.80 บาทต่อหุ้น และได้กำหนดใช้สิทธิ์ในครั้งที่ 2 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 สามารถแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ K-W2 ได้ระหว่างวันที่ 23-29 พฤศจิกายน 2566 ครั้งที่ 3 สามารถใช้สิทธิ์แปลงสภาพ ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยสามารถแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ K-W2 ได้ระหว่างวันที่ 22-28 กุมภาพันธ์ 2567 และจะทำการซื้อขาย K-W2 วันสุดท้ายคือ วันที่ 18 เมษายน 2567 ก่อนที่ผู้ถือหุ้นจะใช้สิทธิ์ครั้งสุดท้าย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ดังนั้นจะต้องแจ้งความจำนงเพื่อใช้สิทธิแปลง K-W2 ระหว่างวันที่ 29-30 เมษายน และวันที่ 1-13 พฤษภาคม 2567

สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการใช้สิทธิแปลงสภาพ K-W2 ในครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตในอีก 1 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าเม็ดเงินจากการระดมทุนภายหลังผู้ถือหุ้นมีการแปลงสภาพหมดตามสิทธิประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯในการนำเม็ดเงินดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนเพื่อหมุนเวียนสำหรับการต่อยอดและรองรับการขยายโครงการต่าง ๆ ในอนาคต ทั้งนี้หากมีโครงการใหม่ๆ เข้ามาในช่วงกลางปีหรือปลายปีนี้ บริษัทฯ ก็สามารถนำเม็ดเงินดังกล่าวมาต่อยอดการทำงานได้อย่างลงตัว

บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมแตะระดับ 840 ล้านบาท จากสัดส่วนรายได้ 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มงาน Interiors ประมาณ 150 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 15-20% ของรายได้รวม และกลุ่มงาน Exhibition รวมถึงงาน Event ประมาณ 690 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 80-85% ของรายได้รวม ซึ่งจุดเด่นของ K คือการที่บริษัทฯ สามารถทำได้ทั้ง 2 ส่วน คืองาน Exhibitions และงาน Interiors ประกอบกับด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าได้ครบทุกมิติ