จำเป็นต้องเลื่อน! กระทรวงท่องเที่ยว เลื่อนเก็บค่าเหยียบแผ่นดินเป็น 1 ก.ย. 2566

229
0
Share:
จำเป็นต้องเลื่อน! กระทรวงท่องเที่ยว เลื่อนเก็บ ค่าเหยียบแผ่นดิน เป็น 1 ก.ย. 2566

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ว่า ล่าสุดจำเป็นต้องเลื่อนการจัดเก็บออกไป โดยคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ได้ในวันที่ 1 กันยายน 2566 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือผู้จัดเก็บ และจัดหาวิธีการจัดเก็บที่สะดวก รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรืออนุสัญญาชิคาโก และกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งปลัดกระทรวงกำลังประสานงานกับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA)

ทั้งนี้ จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงท้าทาย ทั้งจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อเร่งตัว นำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย จนส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย จึงเชื่อว่าปี 2566 นี้ การท่องเที่ยวยังคงเป็นเครื่องจักรที่สำคัญในการนำรายได้เข้าสู่ประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป โดยปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเขาประเทศไทยไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน และเพิ่มเป็น 40 ล้านคนในปี 2567 หรือฟื้นตัวเท่ากับก่อนสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายว่าในปี 2570 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือน 80 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็น 25% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของประเทศ

ส่วนปัญหาทัวร์คิกแบ็ก ทัวร์ศูนย์เหรียญนั้น นายพิพัฒน์ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ เช่นเดียวกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้เรียกตนไปสอบถามและเร่งรัดแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้ข้อมูลว่าการจัดทำทัวร์ศูนย์เหรียญนั้นไม่เพียงเกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย แต่ยังเกิดขึ้นในประเทศจีนเองด้วย อีกทั้งบริษัทเหล่านี้ยังตามไปทำธุรกิจในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไปเยือน และทางการจีนขอความอนุเคราะห์จากทางการไทยให้ช่วยดูแลคุ้มครองนักท่องเที่ยวจีนด้วย รวมทั้งยังได้หารือร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย หากทางการไทยสามารถจับกุมผู้ประกอบการสีเทาที่กระทำผิด สามารถส่งข้อมูลไปยังสถานทูต เพื่อที่ทางการจีนจะลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป