จีนแซงหน้าสหรัฐ ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในด้านจุดหมายของการลงทุนใหม่จากต่างชาติ

การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ UNCTAD เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมาว่า จีนกลายเป็นจุดหมายของการลงทุนใหม่โดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI เป็นอันดับหนึ่งของโลกแซงหน้าสหรัฐเป็นที่เรียบร้อย
.
ส่วนสหรัฐที่เคยครองตำแหน่งแชมป์มีการลงทุน FDI กลุ่มใหม่ลดลงเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในทางกลับกันการลงทุนในประเทศจีนเพิ่มขึ้น 4% แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นในเวทีเศรษฐกิจโลก
.
แม้ว่าจีนจะสามารถครองอันดับหนึ่งสำหรับการลงทุนครั้งใหม่โดยตรงจากต่างประเทศ แต่สหรัฐยังคงเป็นแชมป์ในการลงทุนจากต่างประเทศในภาพรวมทั้งหมดทั้งใหม่และเก่า
.
แต่ตามข้อมูลของศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจ หรือ CEBR ในสหราชอาณาจักร มีการคาดการณ์ว่าจีนอาจแซงสหรัฐได้ภายในปี 2571
.
ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐกำลังวิกฤตด้วยสถานการณ์โควิด-19 แต่เศรษฐกิจจีนกลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็วช โดยจีนมีเงินไหลเข้าประเทศถึง 163,000 ล้านดอลลารสหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐมี 134,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
นอกจากนี้จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจ

ข่าวอัหลักเพียงแห่งเดียวที่สามารถฟื้นตัวได้ในขณะที่เกิดวิกฤตโรคระบาด ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนประหลาดใจกับความสามารถในการฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังเป็นช่วงที่มีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอีกด้วย
.
ในทางกลับกันเมื่อปี 2562 สหรัฐได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศถึง 251,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่จีนได้รับ 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐพุ่งสูงสุดในปี 2559 ด้วยเม็ดเงินจำนวน 472,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งขณะนั้นการลงทุนจากต่างประเทศในประเทศจีนอยู่ที่ 134,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากนั้นเป็นต้นมาการลงทุนในจีนก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่การลงทุนในสหรัฐลดลงทุกปีตั้งแต่ปี 2560