จ่ออ่อนค่าอีก! ‘กสิกรไทย’ คาดเงินบาทอาจหมดช่วงแข็งค่า จากอานิสงส์ท่องเที่ยวผ่านไปแล้ว

202
0
Share:
จ่ออ่อนค่าอีก! 'กสิกรไทย' คาด เงินบาท อาจหมดช่วงแข็งค่า จากอานิสงส์ท่องเที่ยวผ่านไปแล้ว

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวในงาน Economic Outlook Thailand Forecast ว่าทิศทางอัตราแลกเปลี่ยน โดยค่าเงินบาทอาจหมดช่วงแข็งค่าลง และทำให้เกิดการอ่อนค่ามากขึ้น ซึ่งคาดกรอบเงินบาทช่วง 4 สัปดาห์ต่อไป ค่าเงินบาทจะแกว่งตัวได้ที่ระดับ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านสำคัญที่ทดสอบเงินบาทเมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม มูลค่าที่เหมาะสมของค่าเงินบาท โดยพิจารณาค่าเงิน เงินเฟ้อในไทยและประเทศคู่ค้าคู่แข่ง ซึ่งค่าเงินบาทเมื่อเปรียบเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐในระดับที่เหมาะสม ณ ขณะนี้ ควรอยู่ที่ 34.6 บาทต่อดอลลาร์ หากดูตลาดปัจจุบันมูลค่าเงินบาทอยู่สูงกว่าระดับเหมาะสม 2.6% จากค่าเงินบาทช่วงนี้ที่ประมาณ 34.16 บาทต่อดอลลาร์

ปัจจัยที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงกว่าปกติเพราะปัจจัยด้านฤดูกาลของไทย เช่น เทศกาลท่องเที่ยวผ่านไปแล้วหลังเทศกาลตรุษจีน และอุณหภูมิในซีกโลกเหนือ โดยเฉพาะยุโรปไม่หนาวเท่าที่คาดการณ์ไว้ นักท่องเที่ยวจึงไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ ทำให้อานิสงส์เงินบาทแข็งหมดไปในช่วงนี้

นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้บาทอ่อนระยะสั้นเพราะเดือนมีนาคม 2566 บริษัทในประเทศญี่ปุ่นปิดงบประมาณ ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท เพราะบริษัทญี่ปุ่นในไทยก็ต้องมีการโอนเงินปันผลไปให้กับบริษัทแม่ และหลังจากนั้นในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2566 จะเป็นฤดูที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นต่างชาติ โดยในปี 2565 บริษัทจ่ายเงินปันผลใช้เม็ดเงินในภาพรวมกว่า 90,000 ล้านบาท อาจเป็นสาเหตุทำให้เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท เพราะต้องโอนเงินเหล่านี้ออกไป

ทั้งนี้ ธนาคารยังคงประมาณการค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 2566 ที่ 33.80 บาทต่อดอลลาร์ โดยได้รับปัจจัยบวกด้านดุลบัญชีเดินสะพัดในปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะเกินดุลประมาณ 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนหน้าที่ขาดดุล 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน ค่าเงินบาทมีความผันผวน หลังจากช่วงสิ้นปี 2565 จากกระแสจีนเปิดประทศ เป็นเหตุผลที่มีการเก็งกำไรค่าเงินบาทค่อนข้างสูง อีกทั้ง หลังจากมีกระแสการถกเถียงว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนสถานะการถือสินทรัพย์ โดยการขายสกุลเงินเหรียญสหรัฐและเข้าซื้อสกุลเงินเอเชียมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นนี้เงินเหรียญสหรัฐได้อานิสงส์ฝั่งแข็งค่า หลังตลาดมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะชะลอลง แม้เฟดส่งสัญญาณการปรับอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง ประกอบกับความไม่แน่นอนในนโยบายของเฟดประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ทำให้ตลาดเงินมีความผันผวน ส่งผลให้ค่าเงินบาทแกว่งตัวตามกลไกตลาดที่ยังมีความเสี่ยง