ชาติที่เคยให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ติดพุ่งกว่า 3,700 มากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

368
0
Share:
โควิด-19

สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในประเทศบรูไนดารุสซาราม ซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่มอาเซียน ได้กลับมาทวีความรุนแรงเป็นประวัติการณ์ หลังจากผู้นำสูงสุดประเทศบรูไนประกาศให้โรคระบาดโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในช่วงระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 14 มกราคม 2565

กระทรวงสาธารณสุข บรูไน รายงานว่าในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมาถึงเมื่อวานนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2565 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,721 ราย ไม่เพียงทำสถิติติดเชื้อรายวันมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่ยังเป็นวันที่ 3 ที่มียอดติดเชื้อรายวันมากกว่า 3,000 รายขึ้นไป ส่งผลยอดติดเชื้อสะสมเป็น 48,055 ราย อยู่อันดับที่ 145 ของโลก และอันดับที่ 11 ของอาเซียน ขณะพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 113 ราย

ในปี 2564 ที่ผ่านมา ประเทศบรูไรมีสถิติติดเชื้อรายวันมากสุดเป็นประวัติการณ์จำนวน 504 ราย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ส่วนยอดเสียชีวิตรายวันมากสุดเป็นประวัติการณ์มีจำนวน 5 ราย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 และ 17 ตุลาคม 2564

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ดารุส ซาราม ทรงประกาศสถานะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศบรูไน โดยเปลี่ยนสถานะจากโรคระบาด หรือ Pandemic ให้มีสถานะเป็นโรคประจำถิ่น หรือ Endemic มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 14 มกราคม 2565

แม้จะประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น แต่เป็นการประกาศการปรับเข้าสู่ภาวะโรคประจำถิ่นระยะเริ่มต้น ทำให้รัฐบาลประเทศบรูไนประกาศกฎเกณฑ์ และมาตรการต่างๆในการรักษาพยาบาล และการติดตามตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิดจะยังคงดำเนินการต่อไป โดยขอให้ประชาชนชาวบรูไนรับผิดชอบต่อสังคม และปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติ (SOPs) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

การประกาศเปลี่ยนสถานะของโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่นในระยะเริ่มต้น ส่งผลให้ประเทศบรูไนเป็นประเทศแรกของโลก และของอาเซียนที่ประกาศสถานะให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 กลับเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2565 ที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้น 56 ราย ซึ่งติดเชื้อมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ช่วงนั้น ถัดจากนั้น ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 บรูไนเผชิญจำนวนการติดเชื้อรายวันพุ่งสูงอย่างรุนแรงและรวดเร็วจนทำลายสถิตินิวไฮเดิมที่ 504 ราย สาเหตุจากการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน

ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2564 รัฐบาลบรูไนทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบโดสได้ราว 88% ของประชากรทั้งประเทศ สำหรับการฉีดเข็มบูสเตอร์ หรือเข็มสามจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป