ชิงทำกำไร หุ้นดาวโจนส์ปิดร่วงเกือบ 180 จุด ตลาดน้ำมันพลิกเพิ่มเกือบ 2%

690
0
Share:

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 29,872 จุด -173 จุด หรือ -0.58% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,629 จุด -5 จุด หรือ -0.16% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,094 จุด +57 จุด หรือ +0.47% สาเหตุจากการเทขายทำกำไรเกิดขึ้น หลังจากดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทะลุเหนือ 30,000 จุด เป็นประวัติศาสตร์เมื่อวานนี้ ตัวเลขการขอใช้สิทธิสวัสดิการช่วงว่างงานรายสัปดาห์กลับมาเพิ่มขึ้นถึง 778,000 คน ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 733,000 คน
.
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 45.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.8% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 48.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบสูงสุดในรอบ 8 เดือนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐ ลดลงอย่างน่าประหลาดใจถึง 754,000 บาร์เรล ความคืบหน้าในการทดลองวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของบริษัทเวชภัณฑ์ที่มีมากขึ้น ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตข้อความการส่งต่ออำนาจการบริหารให้นายโจ ไบเดน และความคาดหวังในการชะลอแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัสจากเดือนมกราคมออกไป การประชุมกลุ่มดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน และวันที่ 1 ธันวาคมนี้
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,809.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +4.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ยังคงทำสถิติราคาทองคำต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา สาเหตุจากราคาทองคำที่ตกต่ำอย่างรุนแรง ทำให้นักลงทุนเข้าเก็บทองคำทางเทคนิค วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-10 ของบริษัทเวชภัณฑ์ชื่อว่า แอสตร้าเซเนก้า ได้ผลถึง 90% ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอเมริกาที่ทยอยออกมาดีขึ้น