ซองขาวไป! สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์เตรียมปลดเกือบ 600 คน ฐานไม่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19

สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ประกาศจะเริ่มขั้นตอนการปลดพนักงานจำนวน 593 คน ซึ่งพบว่าไม่ยินยอมรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎระเบียบใหม่ที่ได้ประกาศเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การประกาศกฎระเบียบดังกล่าวนับเป็นสายการบินแห่งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาที่บังคับพนักงานของสายการบินทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 นอกจากนี้ พนักงานทุกคนจำเป็นต้องแสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีนมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2564 เป็นต้นไป

นายสกอตต์ เคอร์บี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายเบรตต์ ฮาร์ท ประธานสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เปิดเผยว่า การรักษาความปลอดภัยในการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน เป็นสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกมาก่อนทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากนี้ สายการบินมีแผนงานในการจ้างพนักงาน 25,000 คนในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยพนักงานที่ได้รับการว่าจ้างใหม่ในครั้งนี้จะต้องได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำหรับการจ้างงานพนักงานใหม่ด้วย

อย่างไรก็ตาม สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สายการบินได้รับคำร้องให้ละเว้นการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จากกลุ่มพนักงานจำนวนหนึ่ง โดยเป็นเหตุผลในทางศาสนาและทางการแพทย์ ดังนั้น ในเบื้องต้น สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ จึงให้พนักงานได้รับการยกเว้นชั่วคราวในเหตุผลทางศาสนา อนุญาตให้ลางานโดยไม่ได้รับค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม เนื่องจากมีการฟ้องร้องทางกฎหมายคัดค้านนโยบายดังกล่าวของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์

ทั้งนี้ สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เปิดเผยว่าพนักงานประจในสหรัฐอเมริกามีมากกว่า 99% ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ตามนโยบายของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบดังกล่าวยังครอบคลุมถึงนักบินฝึกหัดทุกคนที่โรงเรียนฝึกหัดการบินของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ด้วย