ซาซ่าเจ๊ง 30 สาขาจากเหตุประท้วงฮ่องกง

628
0
Share:

ซาซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์ เจ้าของเครือข่ายร้านขายเครื่องสำอางชื่อดังในฮ่องกง เผิดเผยว่า เตรียมปิดร้านซาซ่าจำนวน 30 สาขาทั่วฮ่องกงปีหน้า หากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในฮ่องกงยังยืดเยื้อ จนส่งผลกระทบภาวะเศรษฐกิจฮ่องกงให้ทรุดหนักต่อเนื่องจากปีนี้ สำหรับราคาหุ้นซาซ่าดิ่งเหว 40% ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน สาเหตุจากยอดขายปลีกเครื่องสำอางตกต่ำอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมในเดือนมิถุนายน

ธุรกิจขายปลีกเกือบทุกแห่งในฮ่องกงยังคงเผชิญความยากลำบากต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายปลีกเดือนตุลาคมในฮ่องกงทรุดหนักเป็นเดือนที่ 4 ติดกัน โดยมียอดขายปลีกในแง่มูลค่า -24.3% และในแง่ปริมาณนั้น มียอดขายปลีก -26.2% ทั้ง 2 ตัวเลขทำสถิติทั้งมูลค่าและปริมาณย่ำแย่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์

ธนาคารไอเอ็นจีแบงก์ ประเมินว่า โอกาสธุรกิจขายปลีกในฮ่องกงจะปิดตัวลงมีเพิ่มมากถึง 70% ซึ่งขึ้นอยู่กับยอดการใช้จ่ายในธุรกิจขายปลีกในฮ่องกงจะย่ำแย่ต่อเนื่องไปอีกนานแค่ไหน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจประเภทบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ซึ่งเป็นธุรกิจภาคบริการที่ใหญ่อันดับต้นๆของเศรษฐกิจฮ่องกง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลายแห่งใช้ความพยายามเจรจาต่อรองขอลดค่าเช่ากับเจ้าของตึกหรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ๆ เพื่อต้องการยืดระยะเวลาการทำธุรกิจออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

โชว ไต๋ ฟุ๊ค จิวเวลรี่กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจจิวเวลรี่ชื่อดังและเก่าแก่แห่งหนึ่งของฮ่องกง ตัดสินใจลดต้นทุนทำธุรกิจลงด้วยการเปิดเจรจาขอส่วนลดค่าเช่ามากขึ้น ตัดลดงบโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างมากมาย และทบทวนร้านสาขาทั้งในฮ่องกงและมาเก๊ารวมทั้งหมด 40 สาขา หลังจากครึ่งปีแรก โชว ไต๋ ฟุ๊ค จิวเวลรี่กรุ๊ปมีรายได้สุทธิดิ่งหนักถึง 21%

ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังฮ่องกงถอดใจสมบูรณ์แบบ ยอมรับว่าเศรษฐกิจฮ่องกงปีนี้ได้รับผลกระทบเสียหายถึง 2% นอกจากนี้ เศรษฐกิจฮ่องกงจะเกิดขาดดุลงบประมาณเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาจากสงครามการค้าโลก วิกฤตการเมืองและการประท้วงยืดเยื้อมานานกว่า 6 เดือน