ซิกท์ ยักษ์ใหญ่สุดบริการรถเช่าในยุโรป ลั่นเลิกใช้รถไฟฟ้า(อีวี) เอือมลดราคาป้านแดงบ่อย

293
0
Share:
ซิกท์ SIXT ยักษ์ใหญ่สุด บริการรถเช่า ในยุโรป ลั่นเลิกใช้ รถไฟฟ้า (อีวี) เอือมลดราคาป้านแดงบ่อย

ซิกท์ (SIXT) บริษัทให้บริการรถเช่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป เปิดเผยว่า เตรียมซื้อรถยนต์ใหม่จำนวนกว่า 250,000 คันจากค่ายกลุ่มผลิตรถยนต์ชื่อดังสเตลแลนติส(Stellantis) เข้าประจำฝูงรถเช่าในตลาดอเมริกาเหนือและยุโรป แม้ว่าซิกท์จะไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับยี่ห้อ และประเภทเครื่องยนต์ของรถคันใหม่ที่จะซื้อเข้ามาก็ตาม แต่ในเดือนธันวาคม ปี 2023 ซิกท์ประกาศชัดเจนว่า ยกเลิกการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี ซึ่งเป็นยี่ห้อเทสลาที่ซิกท์ซื้อเข้ามาประจำฝูงรถเช่าของบริษัท

สาเหตุที่ยกเลิกการใช้รถอีวีของยักษ์ใหญ่ธุรกิจรถเช่ารายนี้ เป็นผลจากเทสลาใช้กลยุทธ์ราคาด้วยการลดราคาขายรถเทสลาหลายครั้งในช่วงปีผ่านไป ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อราคารถมือสองทั้งเครื่องยนต์สันดาป และรถอีวี ซึ่งการขายรถเช่าออกจากฝูงรถถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับธุรกิจบริษัทรถเช่า นอกจากนี้ รถอีวีในภาพรวมไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดก็ตาม ล้วนยังมีค่าใช้จ่ายดูแลบำรุงซ่อมแซมที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในช่วงเวลาเดียวกัน

ซิกท์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สัญญาสั่งซื้อรถยนต์ใหม่ในครั้งนี้ ซึ่งมีจำนวนกว่า 250,000 คัน คิดเป็นเงินมูลค่าหลายพันล้านยูโร โดยจะเริ่มทยอยส่งรถภายในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ประกอบด้วยรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์นั่งขนาดเล็กหรือซิตี้คาร์ รถเอสยูวี และรถกระบะ อย่างไรก็ตาม แผนการจัดซื้อรถยนต์ของซิกท์ในระยะยาวถึงช่วงสิ้นสุดทศวรรษนี้ จะยังคงมีสัดส่วนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรืออีวีราว 90% ในพื้นที่ยุโรป

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2024 เฮิร์ทส (Hertz) คอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่ธุรกิจบริการบริการรถเช่าชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ประกาศปลดการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีออกจากฝูงบริการรถเช่ามากเป็นจำนวนถึง 20,000 คัน หรือโล๊ะรถอีวีออกมากถึง 1 ใน 3 หรือกว่า 33% ของจำนวนรถอีวีที่ให้เช่าทั่วโลกของเฮิร์ทสหลังจากผ่านมาครบ 2 ปี โดยรายได้จากการรถอีวีทั้งหมด 20,000 คัน จะนำกลับไปซื้อรถยนต์เครื่องสันดาป หรือรถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกลับเข้ามาทดแทนในฝูงรถให้บริการของเฮิร์ทส

สาเหตุจากลูกค้าจำนวนมากมายที่ใช้บริการรถเช่าทั้งรายวัน รายเดือน และระยะยาวสำหรับองค์กร ล้วนไม่ต้องการและไม่สนใจเช่ารถอีวีอีกต่อไป นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเมื่อเกิดอุบัติเหตุชนกัน หรือเกิดความเสียหายชำรุดของชิ้นส่วนและอะไหล่ตามเวลาผ่านไปนั้นมีต้นทุนรวมสูงมากทั้งๆที่มีบริการประกันรถอีวีครอบคลุม

เว็บไซต์เฮิร์ทสได้ประกาศขายรถอีวียี่ห้อเทสลาหลากหลายรุ่นและสี ซึ่งอยู่ในโครงการโล๊ะการใช้งานออกเป็นจำนวน 20,000 คัน โดยมีราคาประกาศขายต่ำสุดเหลือแค่คันละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่าตันละ 700,000 บาท ก่อนหน้านี้ มีราคาขายต่ำกว่าคันละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือต่ำกว่าคันละ 700,000 บาทด้วย เฮิร์ทส เปิดเผยต่อไปว่า รายได้และค่าเสื่อมจากการขายรถอีวีจำนวนทั้งหมด 20,000 คัน คิดเป็น คิดเป็นจำนวน 245 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8,575 ล้านบาท จะถูกบันทึกในไตรมาส 4 ปีนี้

ด้านไอซีคาร์ดอทคอม เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีทั้งคันใหม่ และรถอีวีมือสอง ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หลังจาก เฮิร์ทส (Hertz) คอร์ปอเรชั่น ยักษ์ใหญ่ธุรกิจบริการบริการรถเช่าชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา ประกาศขายรถอีวีในฝูงรถบริการให้เช่ามากถึง 20,000 คันใน 2 ปีนี้ ไอซีคาร์ดอทคอม เปิดเผยว่า ราคารถอีวีหดหายมากถึง 33.7% ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมปี 2022 ถึงตุลาคมปี 2023 ทั้งๆที่ราคารถยนต์มือสองในภาพรวมของตลาดจะลดลงเพียง 5.1%

นายคาร์ล เบราเออร์ นักวิเคราะห์จากไอซีคาร์ดอทคอม เปิดเผยว่า เป็นผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเทคโนโลยีรถอีวี ปัจจุบันประชาชนทั่วไปมีความลังเลใจมากอยู่แล้วในการตัดสินใจซื้อรถอีวี ข่าวของบริษัทเฮิร์ทส เป็นสิ่งตอกย้ำความลังเลใจหรือความกังวลตรงนั้นสมบูรณ์แบบ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนหรืออะไหล่ของรถอีวีเป็นที่รู้กันดีว่ามีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งหมดเป็นผลมาจากการขาดความเชี่ยวชาญที่เพียงพอในการรับมือกับการใช้รถอีวี รวมถึงความท้าทายในการที่จะวางระบบรองรับการซ่อมแซมเปลี่ยนถ่ายชิ้นส่วนอะไหล่รถอีวี เนื่องจากรถอีวีจนถึงทุกวันนี้ล้วนเป็นสิ่งใหม่ในวงการยานยนต์ทั้งใช้งานส่วนบุคคลและใช้งานเชิงธุรกิจ

รายงานที่มีชื่อว่า Consumer Report ซึ่งจัดทำขึ้นโดยองค์กรที่ไม่ได้แสวงหากำไรเมื่อปีผ่านมา เปิดเผยว่า การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีมีปัญหามากกว่าการใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป หรือรถน้ำมัน ผลสำรวจดังกล่าวครอบคลุมเจ้าของรถยนต์มากกว่า 330,000 คน ได้บทสรุปว่า การใช้รถอีวีต้องเจอปัญหาถึง 79% มากกว่าการใช้รถน้ำมัน หรือรถยนต์เครื่องสันดาปในช่วง 3 ปีผ่านมา บริษัทวิจัยตลาดรถยนต์ คานาลิส เปิดเผยว่า ตลาดรถอีวีในทวีปอเมริกาเหนือ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ในปี 2024 นี้ ถูกคาดการณ์ว่าจะตกต่ำลงถึง -27% หลังจากในปี 2023 ผ่านไป เติบโตมากถึง 72%