รองประธานสภาอุตฯ ชู 3 ทางออกเงินดิจิทัล 10,000 ใช้พลังบวกแก้ ลดตอบโต้การเมือง

193
0
Share:
รองประธาน สภาอุตสาหกรรม ชู 3 ทางออก เงินดิจิทัล 10,000 ใช้พลังบวกแก้ ลดตอบโต้การเมือง

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาล มีดังนี้

ทางออกของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มการบริโภค จากนโยบาย Digital Wallet 10,000 บาท ผมขออนุญาตแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ ดังนี้ครับ

1) ถือเป็นนโยบายที่ดีของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการบริโภคของประชาชน ที่กำลังลำบากอย่างยิ่งจากวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้ขั้นต่ำ ,ปานกลาง,แรงงาน ,กลุ่มเปราะบาง ประเภทต่างๆ และ คนตกงาน

2) การเลือกใช้เงิน Digital คือการควบคุมประเภทของการใช้เงิน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ( สินค้า หรือ บริการ ที่จำเป็นในการครองชีพ)และ ให้เงินหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ในระบบ Block chain ตลอดเวลา 6 เดือน ของโครงการ

ที่สำคัญคือ ทำอย่างไร ให้เงินหมุนเวียน และ กระจายสู่ท้องถิ่นและ SMEs มากที่สุด และ ไม่กระจุกตัวในสินค้า และ ช่องทางการตลาดที่ผูกขาดของทุนใหญ่ มากเกินไป

3) เศรษฐกิจในประเทศของเราในวันนี้ ต้องยอมรับว่าฝืดเคืองอย่างยิ่ง เราต้องการการกระตุ้นการบริโภคเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ

3.1 ฝั่ง Demand ; ดูจาก % หนี้ครัวเรือน ต่อ GDP ที่สูงถึง 91% (ยังไม่รวมหนี้นอกระบบ ) ใครมองปัญหาไม่ออก อยากให้ท่านลองคุยกับ ลูกน้องในองค์กรของท่านดูก็ได้ครับ 3.2 ฝั่ง Supply ; ทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศ จากการส่งออกที่ชะลอตัวสินค้าราคาถูกนำเข้า ไร้มาตรฐานแทรกแซงตลาดในประเทศ ความผันผวนของราคาพลังงานโลก และล่าสุดการเร่งรีบขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยอ้างเหตุผลสกัดเงินเฟ้อในอนาคต

4) วินัยการคลัง ผลกระทบเรื่องภาวะเงินเฟ้อ ความคุ้มค่าของโครงการนี้ คือสิ่งที่เรา และกูรูทั้งปวง ควรต้องช่วยกันเสนอแนะทางออกที่ดี อย่างสร้างสรรค์เพื่อเป็นการเดินหน้าเศรษฐกิจประเทศไทย ไม่ใช่ อยู่ภายใต้การสร้างความหวาดกลัวจนเกินจริงไหมครับ ที่ผ่านมา และจากนี้ไปประชาชนส่วนใหญ่ก็อยากให้กูรูทั้งหลาย จะได้กรุณาให้ความเห็นต่อการใช้เงินของภาครัฐที่อาจมีความสุ่มเสี่ยง และไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ อย่างเหมาะสมนะครับ

ท้ายนี้ ในความเห็นส่วนตัว ผม ขออนุญาตเสนอแนะรัฐบาล เพื่อเดินหน้าโครง Digital wallet ดังนี้ ครับ
1) ทบทวนกลุ่มเป้าหมาย แบบ “พุ่งเป้า” ควรเน้นเฉพาะคนที่ลำบาก เดือดร้อน และ เห็นความสำคัญของ การใช้เงิน 10,000 บาทนี้จริงๆ ทั้งนี้ เราจะได้มีงบประมาณไปใช้ในโครงการเร่งด่วน อื่นๆ เช่น ปัญหาภัยแล้ง ตามที่ภาครัฐ ก็ให้ความสำคัญ ลงพื้นที่ รับทราบปัญหาตลอดมาก

2) บริหารโครงการให้มีความโปร่งใสและรัดกุมที่สุดใช้เงินอย่างคุ้มค่า ในทุกบาททุกสตางค์ ด้วยจำนวนเม็ดเงินจำนวนมากหลายแสนล้านบาท

3) ติดตามผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่อง และ สื่อสาร นำเสนอให้สังคมรับทราบเพื่อเป็นการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงการ

ลดการโต้ตอบแบบนักการเมืองใดๆ ผมปรารถนาที่จะให้ประเทศไทยได้ร่วมกันฝ่าฟันปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ให้ผ่านไปได้ด้วยดี ด้วยการใช้พลังบวก ลดการโต้ตอบทางการเมือง ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมประเทศไปมากกว่านี้นะครับ