‘ซิดนีย์’เล็งคลายล็อกดาวน์ หากฉีดวัคซีนโควิดถึง 70 % ซึ่งจะอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสเดินทางได้ คาดเริ่มใช้ช่วงสิ้นเดือนต.ค.
กลาดิส เบเรจิคเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ผลักดันกลยุทธ์การควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปเน้นการเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนแทน ซึ่งผู้อยู่อาศัยในซิดนีย์จะได้รับการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางบางประการในเร็ววันนี้ คาดอาจจะเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยจะอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ โดสแล้วสามารถเดินทางออกนอกเคหสถานได้ เมื่อประชากรในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 70% ได้รับวัคซีนแล้ว
ปัจจุบัน ประชากรผู้ใหญ่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้รับฉีดวัคซีนครบโดสแล้วประมาณ 43% ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสอยู่ที่ 76% ซึ่งแผนคลายล็อกดาวนั้นทำให้ธุรกิจในนครซิดนีย์โรงยิม ร้านตัดผม ร้านอาหาร คาเฟ่ และผับ จะได้รับอนุญาตให้เปิดบริการอีกครั้ง โดยในช่วงแรกจะต้องลดความจุของจำนวนคนลง และบางพื้นที่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์อาจได้รับการยกเลิกข้อจำกัด
ทั้งนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า แต่จนถึงตอนนี้การแพร่ระบาดยังคงไม่ลดลง จึงได้เปิดเผยแผนการคลายล็อกดาวน์ที่มีชื่อว่า Roadmap to Freedom ซึ่งคาดว่าจะคลายล็อกได้ในเดือนตุลาคมนี้
