ซีอีโอแบงก์เจพีมอร์แกนชี้เงินเฟ้อสูบเงินออมอเมริกันหมดกลางปีหน้า เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

270
0
Share:
ซีอีโอแบงก์ เจพี มอร์แกน ชี้ เงินเฟ้อ สูบเงินออมอเมริกันหมดกลางปีหน้า เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

นายเจมี ดีมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า ภาวะเงินในระดับสูงทุกวันนี้ และในอนาคตของสหรัฐอเมริกาจะทำให้เกิดภาวะถดถอยกับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2023 นอกจากนี้เศรษฐกิจถดถอยดังกล่าวจะเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับปานกลางถึงหนักอีกด้วย

ขณะนี้ ประชาชนชาวอเมริกันมีเงินอิมสะสมรวมกันในระบบ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 53.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจากรัฐบาลในช่วงระหว่างเผชิญโรคระบาดโควิด-19 สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ผู้บริโภคชาวอเมริกันใช้จ่ายเงินออมมากถึง 10% กว่าในปี 2021 ที่ผ่านไป

แต่ปริมาณเงินออมดังกล่าวทีมากถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 53.3 ล้านล้านบาทจะทยอยหดหายไปในช่วงเวลากลางปี 2023 สาเหตุจากภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงต่อไปในปีหน้า นั่นหมายถึงจะฉุดเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาตกต่ำ นำไปสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ปานกลางถึงหนัก

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมผ่านมานั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค นายเจมี ดิมอน กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแท้จริงในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้านี้ นอกจากนี้ ยังมองว่าดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 จะดำดิ่งแรงอีกถึง -20% จากปัจจุบัน ซึ่งขึ้นอยู่กับธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะบริหารจัดการภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาให้ถดถอยอย่างนุ่มนวล หรือรุนแรง

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านไป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค นายเจมี ดิมอน เคยกล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับพายุเฮอริเคนใหญ่ ซึ่งมีสาเหตุจากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และภาวะสงครามรัสเซียในยูเครน

ทั้งนี้ นายเจมี ดีม่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ในวัย 66 ปี ขึ้นเป็นซีอีโอของธนาคารดังกล่าวในปี 2006 สามารถบริหารให้ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค กลายเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาในด้านมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่งสามารถนำธุรกิจธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจสถาบันการเงินสหรัฐอเมริกาในปี 2008 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน