ซีเนเวิลด์เล็งปลดพนักงาน 45,000 คน

733
0
Share:

ซีเนเวิลด์ ธุรกิจเครือข่ายโรงภาพยนตร์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก ประกาศปิดโรงภาพยนตร์ที่อยู่ในสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริการวมทั้งหมด 663 แห่งภายในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ โดยแบ่งเป็นโรงภาพยนตร์ชื่อว่า รีกัล จำนวน 536 แห่งในสหรัฐ และโรงภาพยนตร์ชื่อว่า ซีเนเวิลด์และพิคเจอร์เฮ้าส์ รวมกัน 127 แห่ง นอกจากนี้ เตรียมปลดพนักงานรวมกันทั้งหมดมากถึง 45,000 คนใน 2 ประเทศ
.
สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 2 ที่ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บริษัท เมโทร โกลด์วิน-เมเยอร์ เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนต์ชื่อดังระดับโลก ชื่อ เจมส์ บอนด์ พยัคฆ์ร้าย 007 ประกาศเลื่อนฉายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับโลกของพยัคฆ์ร้าย 007 ตอน No Time To Die เป็นครั้งที่ 2 ออกไปเป็นวันที่ 2 เมษายน 2564 ทำให้ไม่มีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ใหญ่ระดับฮอลลีวู้ดเข้าภายแม้แต่เรื่องเดียว
.
ด้านผลประกอบการในครึ่งแรกของปีนี้ มีรายได้เหลือเพียง 712.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 22,797 ล้านบาท ซึ่งตรงกันข้ามกับในช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีรายได้ 2,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 688,000 ล้านบาท แต่กลับมีผลขาดทุนพุ่งสูงถึง 1,300 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือราว 53,300 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
.
สำหรับราคาหุ้นของบริษัท ซีเนเวิลด์ นั้น มีราคาร่วงตกต่ำอย่างหนักกว่า -80% ตั้งแต่ต้นปีถึงคืนที่ผ่านมา (5 ตุลาคม) นักลงทุนขาดความมั่นใจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เทขายหุ้นซีเนเวิลด์ทรุดดิ่ง -60% ในคืนที่ผ่านมา ทำสถิติราคาหุ้นต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ภาย 10 นาทีที่เปิดการซื้อขายหุ้นที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ สาเหตุจากซีเนเวิลด์ต้องการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินที่ได้ไปรักษาสภาพคล่องของธุรกิจโรงภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นซีเนเวิลด์ตีตื้นขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง ส่งผลปิดตลาดหุ้นคืนผ่านมานั้น ราคาหุ้นร่วง -36%
.
ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารระดับสูงของซีเนเวิลด์ ได้ส่งจดหมายถึงนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายโอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม อังกฤษ มีใจความสำคัญโดยเตือนว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในสหราชอาณาจักรมาถึงจุดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอีกต่อไปได้

ทั้งนี้ ซีเนเวิลด์ เป็นธุรกิจเครือข่ายโรงภาพยนตร์ที่มีเจ้าของร่วมกัน คือ รีกัลซีเนม่า และพิคเจอร์เฮ้าส์ ปัจจุบันซีเนเวิลด์เป็นผู้ให้บริการโรงภาพยนตร์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีเครือข่ายโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 778 แห่งทั่วโลก แต่สามารถเปิดบริการได้เพียง 561 แห่ง หรือราว 72% ของทั้งหมด ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะโรคระบาดโควิด-19 และการเลื่อนเปิดฉายภาพยนตร์เป็นจำนวนมาก
.