ซื้อนำ! เอกชนฟิลิปปินส์-อินโดนีเซีย กว้านซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 นำชาติอื่นในอาเซียน

สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่สิ้นสุดในอาเซียน ส่งผลให้เอกชนในประเทศยักษ์ใหญ่ของอาเซียนเปิดเจรจาและสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 โดยตรง หลังพบว่ารัฐบาลดำเนินการเจรจาและสั่งซื้อไม่ทันกับสถานการณ์การระบาด และข้อจำกัดหลากหลายด้านที่เป็นอุปสรรคอย่างมาก โดยฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียกลายเป็น 2 ประเทศที่นำการสั่งซื้อวัคซีนเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในอาเซียน

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านไป ฟิลิปปินส์ตกลงซื้อวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เพื่อใช้ฉุกเฉินของโมเดอร์นา สหรัฐอเมริกา เป็นจำนวน 20 ล้านโดส ภายใต้ข้อตกลง 3 ฝ่าย ข้อตกลงดังกล่าวลงนามโดยภาคเอกชนฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจในประเทศฟิลิปปินส์ได้รับวัคซีนมากถึง 7 ล้านโดส หรือราว 35% ของการสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์นาจากสหรัฐอเมริกา มหาเศรษฐีชื่อดัง นายเอนริเก้ ราซอน ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจท่าเรือและศูนย์กาสิโน ตกลงที่จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการขนส่งวัคซีนดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ธุรกิจเอกชนในฟิลิปปินส์รวมกว่า 300 แห่ง รวมตัวกันสั่งซื้อวัคซีนเป็นจำนวน 2.6 ล้านโดสจากแอสตราเซเนกา ในจำนวนดังกล่าวประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ 1.3 ล้านโดสจะบริจากให้รัฐบาลฟิลิปปินส์

ด้านรัฐบาลฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ ได้รับการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จากหลายบริษัทรวม 3 ล้านโดส เช่น แอสตราเซเนกา และซิโนแวค ไบโอเทค นอกจากนี้ ได้รับการแจ้งว่า จะได้รับวัคซีนของแอสตราเซเกนาจำนวน 1 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ และในเดือนพฤษภาคมอีก 2 ล้านโดส อย่างไรก็ตาม หากประเมินจากเป้าหมาย จำนวนวัคซีนที่ได้รับ แผนการสั่งซื้อวัคซีน และระยะเวลาในการฉีดวัคซีนให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ของประเทศฟิลิปปินส์ที่ 70% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ หรือกว่า 73.5 ล้านคนนั้น เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลอย่างมาก และมีแนวโน้มเป็นไปได้ยากมาก

ดังนั้น ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ นายโรดริโก้ ดูเตอร์เต้ ประกาศให้เอกชนนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ได้ โดยไม่จำกัดจำนวนแต่อย่างใด

อินโดนีเซียเผชิญปัญหาการจัดหาวัคซีนอย่างล่าช้า โดยเฉพาะเป้าหมายในการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่ด้วยสัดส่วนเกือบ 70% ของประชากรทั้งประเทศ หรือราว 181.5 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ ท่ามกลางรัฐบาลอินโดนีเซียจัดงบประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 128,000 ล้านบาทให้โครงการฉีดวัคซีนฟรีกับชาวอินโดนีเซีย

เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ภาคเอกชนอินโดนีเซียจึงรวมตัวกันผ่านสภาอุตสาหกรรมและหอหารค้าแห่งอินโดนีเซีย มีจำนวนถึง 17,000 บริษัท ซึ่งมีพนักงานรวมกันทั้งสิ้นกว่า 8.6 ล้านคน เพื่อขอลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีน ในที่สุดจนสัปดาห์ที่ผ่านไป ยังไม่มีบริษัทใดได้รับการเข้าถึงการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานแต่อย่างใด ส่งผลให้ภาคเอกชนอินโดนีเซียเร่งให้รัฐบาลแก้ไขข้อจำกัดในการจัดหาและสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างรวดเร็วที่สุด