ซุปเปอร์ช็อค! สภาพัฒน์ตบซ้ำหนี้เสียคนไทยแท้จริงสูงกว่า 3 เท่าของข้อมูลเครดิตบูโร

นางสาววรวรรณ พลิคามิน รองเลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ กล่าวว่า สถานการณ์หนี้สินครัวเรือนของไทยในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ มีมูลค่าหนี้สินครัวเรือนอยู่ที่ 12.9 ล้านล้านบาท ในขณะที่มูลค่าบัญชีหนี้สินเชื่อในระบบมีประมาณ 83.1 ล้านบัญชี เมื่อดูจากสัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 7.6%

แต่เมื่อพิจารณาหนี้เสียที่เกิดจากธนาคารพาณิชย์ในระบบการเงิน จะพบว่ามีเพียง 2.6% ซึ่งน้อยกว่าข้อมูลหนี้เสียรวมของเครดิตบูโรกว่า 3 เท่า โดยหนี้เสียในระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 140,000 ล้านบาท ขณะที่ข้อมูลของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโรมีมูลค่ามากกว่า 980,000 ล้านบาท

นั่นหมายถึงลูกหนี้ที่มีปัญหาเป็นลูกหนี้ที่กู้เงินจากแหล่งหนี้อื่นๆที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนหนี้ครัวเรือนของไทยที่อยู่ในระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง

รองเลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า ลูกหนี้ที่เข้าข่ายต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษได้แก่ กลุ่มแรงงานตอนต้น ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 30 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งอยู่ระหว่าง 50–59 ปี นอกจากนี้ กลุ่มวัยแรงงานตอนต้นที่มีหนี้เสียเพิ่มขึ้น 4.1% ต่อปี หรือกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย มีพฤติกรรมการใช้จ่ายไปกับทัศนคติที่ว่า “ของมันต้องมี” ทำให้การก่อหนี้เพิ่มขึ้น และขาดการวางแผนการเงินสำหรับอนาคต

ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุพบว่า มีหนี้เสียขยายตัวสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยระหว่างปี 2563–2565 นั้น กลุ่มผู้สูงอายุที่เป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น 10.2% ต่อปี ส่วนหนึ่งมาจากประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลง ทำให้ความสามารถในการหารายได้ และความสามารถในการชำระหนี้ลดลง

นอกจากนั้น การก่อหนี้ด้วยการซื้อรถยนต์ พบว่าเป็นหนี้ที่ลูกหนี้มีพฤติกรรมการผิดนัดชำระหนี้มากที่สุด เนื่องจากหนี้เสียและความเสี่ยงของการเป็นหนี้เสียของสินเชื่อยานยนต์ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยในไตรมาส 1 ปีนี้ หนี้เสียของสินเชื่อยานยนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หรือสูงสุดรอบ 14 ไตรมาสสวนทางกับหนี้สินครัวเรือนประเภทอื่นๆ ที่ปรับตัวลดลงทั้งหนี้สินที่อยู่อาศัย สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคลอื่นๆ ที่ลดลง