ซูเปอร์ช็อค! เตือนน้ำมันดิบโลกกระฉูดแตะ 380 ดอลลาร์

291
0
Share:

นาตาชา คานีวา และทีมวิเคราะห์ ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะพุ่งทะยานขึ้นอย่างก้าวกระโดดในลักษณะสตราโตสเฟียร์ ทำให้มีราคาสูงเป็นประวัติศาสตร์ของโลกที่ระดับ 380 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ภาวะราคาน้ำมันดิบสตราโตสเฟียร์ดังกล่าว ขึ้นกับปัจจัยของรัฐบาลรัสเซียที่ว่า ถ้าหากปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบรายวันลงมากถึง 3 ล้านบาร์เรล จะส่งผลถึงราคาน้ำมันดิบตลาดโลกโดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ มีราคาพุ่งสูงถึง 190 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด หากรัสเซียต้องตัดสินใจลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงถึงวันละ 5 ล้านบาร์เรลจากกำลังการผลิตในปัจจุบันราว 9-10 ล้านบาร์เรล จะทำให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เข้าสู่ภาวะราคาน้ำมันดิบสตราโตสเฟียร์ มีราคาพุ่งกระฉูดอย่างก้าวกระโดดถึง 380 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุที่กดดันอย่างรุนแรงให้รัสเซียต้องลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบรายวันลงอย่างมาก มาจากการศึกษามาตรการจำกัดเพดานราคาขายน้ำมันดิบของประเทศรัสเซีย ซึ่งกลุ่มจี 7 หรือ 7 ประเทศชั้นนำอุตสาหกรรมของโลกได้มีมติให้ทำการศึกษามาตรการนี้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ทราบชัดเจนถึงกลไกการทำงานของมาตรการดัง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบ ย่อมทำให้ส่วนต่างกำไรจาการขายน้ำมันดิบของรัสเซียตกต่ำอย่างมาก

นาตาชา คานีวา และทีมวิเคราะห์ ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สถานะทางการคลังของรัฐบาลรัสเซียในปัจจุบันที่ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากมาตรการคว่ำบาตรจากโลกตะวันตก ทำให้รัสเซียสามารถลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบได้มากที่สุดถึง 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือลดการผลิตได้ถึง 50% จากปัจจุบัน โดยไม่สร้างผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศรัสเซีย

นั่นหมายความว่า รัฐบาลรัสเซียมีแนวโน้มมากที่จะตัดสินใจตอบโต้กลุ่มจี 7 เกี่ยวกับมาตรการจำกัดเพดานราคาขายน้ำมันของรัสเซีย ด้วยการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบดังกล่าว ส่งผลให้ภาวะตลาดน้ำมันดิบตึงตัวถึงขั้นวิกฤตอาจเกิดขึ้นในการตัดสินใจตอบโต้จากรัฐบาลรัสเซีย