ดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์กชี้ ‘มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก’ ซีอีโอเฟซบุ๊กตกไปอยู่ที่ 20 โลก

ดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า อันดับเศรษฐีโลกของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก ร่วงลงไปอยู่ที่ 20 โดยมีทรัพย์สินสุทธิเหลือ 55,900 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2 ล้านล้านบาท

โดยข้อมูลเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2564 มูลค่าหุ้นของเมตาพุ่งสูงถึง 382 ดอลลาร์ หรือกว่า 14,000 บาท ทำให้ทรัพย์สินของซัคเคอร์เบิร์ก มีมูลค่ามหาศาลถึง 142,000 ล้านดอลลาร์ ประมาณ 5 ล้าน 2 แสนล้านบาท และในเดือนต่อมาซัคเคอร์เบิร์กได้เปลี่ยนชื่อบริษัทจากเฟซบุ๊กเป็นเมตา สะท้อนถึงความทะเยอทะยานที่ต้องการให้เฟซบุ๊กเป็นมากกว่าโซเชียลมีเดีย และมุ่งสู่ metaverse ซึ่งเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมของโลกแห่งความจริงกับเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน จนกลายเป็น “ชุมชนโลกเสมือนจริง”

ปัญหาของซัคเคอร์เบิร์กเริ่มก่อตัวเมื่อเดือน ก.พ. จากรายงานผลประกอบการที่ตกต่ำ เมื่อจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กรายเดือนไม่ได้เพิ่มขึ้น นำไปสู่ “การล่มสลาย” ของราคาหุ้นครั้งประวัติศาสตร์ ทำให้ทรัพย์สินของซัคเคอร์เบิร์กหายไป 31,000 ล้านดอลลาร์ (กว่า 1 ล้าน 1 แสนล้านบาท) กลายเป็นหนึ่งในการสูญเสียความมั่งคั่งในวันเดียวอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลภายในที่เป็นผลวิจัยของบริษัท ที่เผยแพร่เมื่อเดือน ส.ค. ชี้ว่าซัคเคอร์เบิร์กเดิมพันแบบสุดตัวด้วยการทุ่มให้กับฟีเจอร์ Reels ในอินสตาแกรม เพื่อหวังดึงผู้ใช้จากคู่แข่งอย่างติ๊กต่อก แต่กลับพบข้อมูลที่น่าตกใจว่ายอด engagement ของ Reels ตกลงถึง 13.6% ในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ และผู้ใช้งาน Reels ส่วนใหญ่แทบไม่มี engagement อีกทั้งวิดีโอเกือบ 1 ใน 3 ของ Reels ถูกสร้างจากแพลตฟอร์มอื่น ซึ่งก็คือเอาวิดีโอจากแพลตฟอร์มอื่นที่ได้รับความนิยมสูงกว่า ส่วนใหญ่คือติ๊กต่อกมารีไซเคิลนั่นเอง ถ้าเปรียบเทียบกัน มีผู้ใช้งาน Reels รวมกัน 17.6 ล้านชั่วโมง ไม่ถึง 1 ใน 10 ของจำนวนระยะเวลาผู้ใช้ติ๊กต่อกที่อยู่บนแพลตฟอร์มนานถึง 197.8 ล้านชั่วโมง