ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดิ่งเหวเฉียด 400 จุด ราคาทองคำปิดใกล้ 1,820 ดอลลาร์

328
0
Share:
หุ้น

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 36,407 จุด -392 จุด หรือ -1.07% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,700 จุด -92 จุด หรือ -1.94% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,100 จุด -522 จุด หรือ -3.34% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นนาสแดคทำสถิติตกต่ำหนักที่สุดใน 1 วัน นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 หรือในรอบเกือบ 1 ปีผ่านมา

สาเหตุจากการเปิดเผยบันทึกการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนธันวาคม 2564 พบว่าคณะกรรมการเห็นตรงกันที่จะลดปริมาณงบดุลบัญชี หรือ Balance Sheet ของเฟดหลังจากการเร่งลดมาตรการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลในระบบการเงินสหรัฐที่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นักลงทุนไม่ได้คาดหวังที่จะเห็นการเร่งลดปริมาณงบดุลบัญชีของเฟดมาก่อน ทำให้เกิดความกังวลอย่างมาก โดยทำการเทขายหุ้นทุกกลุ่มโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เทขายหนักมากที่สุด

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 81.22 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.22 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.5%

สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสมีมติการประชุมในวันอังคารที่ 4 มกราคมนี้ว่า ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของทั้งกลุ่มในเดือนกุมภาพันธ์จำนวน 400,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ยังคงเป็นความกังวลของตลาดน้ำมันดิบโลก

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,818.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +3.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% สาเหตุจากทั้งๆที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี พุ่งสูงในรอบ 6 สัปดาห์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าสูงขึ้น แต่นักลงทุนกลับมาเริ่มกังวลภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ทำสถิติติดเชื้ออย่างรุนแรงทั้งระดับโลก และในหลายประเทศ