ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นเกือบ 50 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือกว่า 75 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,348 จุด +47 จุด หรือ +0.14% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,136 จุด +12 จุด หรือ +0.30% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,365 จุด +80 จุด หรือ +0.66% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลง -1.11% และ -0.29% ตามลำดับ แต่ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดขึ้น +0.4%
สาเหตุจากนักลงทุนเฝ้าจับตามองการประชุมของรัฐสภาสหรัฐอเมริกาในคืนวันอังคารที่ 17 พฤษภาคมนี้ ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา เพื่อประเมินสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.07 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.5% ทำให้หยุดราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดลดลง 3 วันทำการติดกันรวม -3.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 75.23 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.06 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.4% ทำให้หยุดราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ปิดลดลง 3 วันทำการติดกันรวม -3.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลง -1.5% และลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
สาเหตุจากไฟป่าในรัฐอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา ที่ลุกลามไปกระทบบริเวณคลังเก็บสำรองน้ำมันดิบเพื่อส่งออก ทำให้การส่งออกน้ำมันดิบจากแคนาดาลดน้อยลงวันละ 300,000 บาร์เรล
นอกจากนี้นักลงทุนเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลมูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,068 ล้านล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีเงินงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายบริหารประเทศได้เพียงอีก 1 เดือนเท่านั้น
ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,010.84 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +4.71 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือลดลง +0.2% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,020.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ +4.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.2%
ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา
ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาร่วงอ่อนค่าลง หลับในสัปดาห์ผ่านไปทำสถิติค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าสูงสุดในรอบ 1 เดือน สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับลดลง
นอกจากนี้ นักลงทุนเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์การเมืองในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาที่กำลังตึงเครียดกับการพิจารณากฎหมายขยายการกู้ยืมเงินของรัฐบาลมูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,068 ล้านล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่สามารถชำระคืนหนี้สินได้ก่อนถึงวันที่ 1 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีเงินงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายบริหารประเทศได้เพียงอีก 1 เดือนเท่านั้น
