ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นแคบๆ 10 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลงเหลือกว่า 76 ดอลลาร์

183
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดขึ้นแคบๆ 10 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลงเหลือกว่า 76 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,573 จุด +10 จุด หรือ +0.03% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,283 จุด +10 จุด หรือ +0.24% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,276 จุด +46 จุด หรือ +0.36% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ปิดสูงสุดในรอบ 10 เดือน หรือตั้งแต่สิงหาคม 2022 และในรอบ 6 เดือน หรือตั้งแต่มกราคม 2023 ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนกลับเข้าลงทุนหุ้นรอบใหม่หลังจากเมื่อวันจันทร์ผ่านมา ได้เทขายอย่างหนาตาเพื่อทำกำไรช่วงสั้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทุกตัวโดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งทะยานกว่า 700 จุด นักลงทุนยังประเมินแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจจะเริ่มตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ เนื่องจากตัวเลขจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนพฤษภาคมพุ่งสูงมากถึง 339,000 คน ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 190,000 คน และยังเป็นตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 29 ติดต่อกัน หรือ 3 ปีติดต่อกัน สิ่งสำคัญคือ อัตราเงินค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ ทำให้ประเมินว่าอาจเป็นแรงลดความกดดันของเฟดในการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้น อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานเดือนดังกล่าวกลับเพิ่มสูงขึ้นที่ระดับ 3.7% ทำสถิติว่างงานมากสุดในรอบ 7 เดือนผ่านมา จากที่ในเดือนเมษายน ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่รระดับ 3.4% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 53 ปี

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.6%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 76.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.6%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกปีนี้ยังคงชะลอตัว หรือซบเซา ถึงแม้ว่ากลุ่มโอเปกพลัสประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงอีกในการประชุมวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านไปมากถึงวันละ 1 ล้านบาร์เรลนำโดยซาอุดีอาระเบียจนถึงสิ้นปีนี้ และยังลดกำลังการผลิตอีกวันละ 500,000 บาร์เรลในปี 2024 ด้วย อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดิบกำลังประเมินผลกระทบแท้จริงในระยะยาวกับมติลดกำลังการผลิตรอบที่ 2 ของกลุ่มโอเปกพลัส หลังจากการลดกำลังการผลิตรอบที่ 1 ที่ผ่านมา กลับไม่ทำให้ราคาน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากความกังวลในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,964.27 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +16.16 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.1% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,981.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +7.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.4%

ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินแนวโน้มและปัจจัยที่จะเป็นแรงกดดันต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่จะตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีกว่าผ่านมาในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นที่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากรอผลการประชุมของเฟดในกลางสัปดาห์หน้า