ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดลงเบาบางเกือบ 10 จุด

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 31,375 จุด -9 จุด หรือ -0.03% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,911 จุด -4 จุด หรือ -0.11% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 14,007 จุด +20 จุด หรือ +0.14% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 หยุดสถิติปรับขึ้นรวม 6 วันติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดในรอบ 5 เดือนกว่า หรือนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นนาสแดคยังคงเดินหน้าทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
.
สาเหตุจากนักลงทุนขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มบลูชิป หรือกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หลังจากมีราคาเพิ่มสูงต่อเนื่องหลายวันผ่านมา และนักลงทุนติดตามความคืบหน้าของรัฐสภาสหรัฐ หลังผ่านร่างกฎหมายฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 59 ล้านล้านบาท ซึ่งเหลือเพียงในส่วนการแปลญัตติของทั้ง 2 พรรคการเมืองในสหรัฐ
.
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 58.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.67% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 61.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.88% ส่งผลราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงสุดในรอบ 13 เดือนผ่านมา
.
สาเหตุจากความคืบหน้าในการผ่านร่างกฎหมายแพคเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ อัตราการว่างงานลดลงจากเดิม 6.7% เหลือ 6.3% ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้ เงินดอลลาร์สหรัฐร่วงอ่อนค่าต่อเนื่อง สมาชิกกลุ่มโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตตามที่ตกลงกันไว้ในเดือนมกราคม และเกือบครึ่งเดือนแรกของกุมภาพันธ์
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,837.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +1.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ขณะเดียวกันผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพลิกลดลง ท่ามกลางรัฐสภาสหรัฐ ได้ผ่านร่างกฎหมายฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 59 ล้านล้านบาท