ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นกว่า 120 จุด น้ำมันดิบโลกปิดร่วงหนักหลุด 90 ดอลลาร์

158
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดขึ้นกว่า 120 จุด น้ำมันดิบโลกปิดร่วงหนักหลุด 90 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,129 จุด +127 จุด หรือ +0.39% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,263 จุด +34 จุด หรือ +0.81% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,236 จุด +176 จุด หรือ +1.36%

สาเหตุจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พลิกลดลงจากที่ระดับ 4.8% ซึ่งเป็นสถิติที่สูงสุดในรอบเกือบ 16 ปีครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2007 เป็นต้นมา

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 41% จากเดิมที่โอกาสตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 50%

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 84.22 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -5.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.6% ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนวันพุธที่ 27 กันยายนผ่านมา มีราคาสูงสุดระหว่างวันที่ 94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 85.81 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -5.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.6% ก่อนหน้านี้ โดยเมื่อคืนวันพุธที่ 27 กันยายนผ่านไป มีราคาสูงสุดระหว่างวันที่ 97 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุสำนักงานข้อมูลพลังงาน หรือ ไออีเอ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดลงมากถึง 8 ล้านบาร์เรล สะท้อนภาวะการใช้น้ำมันลดต่ำลงมากจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่มีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ ในแง่รายไตรมาส พบว่า สหรัฐอเมริกาบริโภคน้ำมันสำเร็จรูปลดลงต่ำสุดในรอบ 22 ปีผ่านมา

ขณะที่ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ซาอุดีอาระเบีย กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า ซาอุดิอาระเบียลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยลดผลิตลงวันละ 1 ล้านบาร์เรลอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2023 สอดคลัองกับรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ประเทศรัสเซีย กล่าวยืนยันเช่นเดียวกันว่า ลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยลดผลิตลงวันละ 300,000 บาร์เรลอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2023 เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัสจะลดลงถึงวันละ 1.3 ล้านบาร์เรลนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2023

ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 1,821.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -0.79 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.1% ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,834.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -5.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.4% ไม่เพียงทำสถิติราคาปิดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 10 เดือนมีนาคมเป็นต้นมา แต่ยังส่งผลให้ราคาทองคำตลาดโลกดำดิ่ง 8 วันติดต่อกันมากกว่า 103 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน พบว่าราคาทองคำตลาดโลกร่วงลง -4.6% หรือดำดิ่งมากถึง 99 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สอดคล้องกับราคาทองคำรายไตรมาส ปิดร่วงลง -3.6% ที่สำคัญ นับตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ซึ่งทองคำมีราคาเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์นั้น ราคาทองคำตลาดโลกดำดิ่งลงเหวถึง 230 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือทรุดลงหนักกว่า -11%

เมื่อกลางเดือนเมษายนผ่านไป ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาปิดสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และเอสบี ปิดกิจการและถูกควบคุมโดยทางการสหรัฐอเมริกา

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.49 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าใกล้เคียงสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 10 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 2 ปี และ 10 ปี กลับลดลงเบาบาง ก่อนหน้านี้ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.8% ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 16 ปีครั้งใหม่ หรือตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2007 และในรอบ 17 ปี หรือตั้งแต่กรกฎาคมปี 2006 ตามลำดับ สะท้อนถึงภาวะอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐอเมริกาอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง