ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่งเหวกว่า 500 จุด น้ำมันดิบปิดพุ่งเหนือ 91 ดอลลาร์

346
0
Share:

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,111 จุด -518 จุด หรือ -1.45% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,477 จุด -111 จุด หรือ -2.44 % และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,878 จุด -538 จุด หรือ -3.74% ทำสถิติดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดครายวัน ดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน และเกือบ 1 ปี ตามลำดับ

สาเหตุจากผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ในปี 2564 ของบริษัท เมตา อินคอร์ปอเรชั่น หรือเฟสบุ๊ก ออกมาย่ำแย่กว่าที่ประเมินไว้ นอกจากนี้ เมตายังเปิดเผยว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปีนี้อาจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ทำให้หุ้นเมตามีราคาปิดทรุดหนักถึง 26.4% นอกจากนี้ ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายอื่นๆ ถูกแรงเทขายหนักตรมไปด้วย หรือเสมอตามการคาดการณ์ ท่ามกลางแรงกดดันของภาวะเงินเฟ้อ และการเร่งขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 90.23 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +2% ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 หรือในรอบ 7 ปี 2 เดือน อย่างต่อเนื่อง

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 91.00 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% โดยในช่วงระหว่างวันของเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 91.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 หรือในรอบ 7 ปี 2 เดือน ขณะนี้ นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งทะยานเกือบ 20% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2564 หลังจากที่ในปี 2564 ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดพุ่งทะยาน 50%

สาเหตุจากถึงแม้กลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอีก 400,000 บาร์เรลในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อแก้ปัญหาปริมาณน้ำมันดิบโลกตึงตัว แต่ความต้องการใช้น้ำมันดิบยังคงมีสูงต่อเนื่อง ส่งผลภาวะตึงตัวของตลาดน้ำมันดิบโลกยังมีต่อไป ขณะที่ สถานการณ์รุนแรงในภูมิภาคตะวันออกกลาง และยุโรปฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศในยูเครนกับรัสเซียที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,802.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -8.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.4% สาเหตุจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี กลับมาเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับทรงตัว