ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่ง 90 จุด ทองคำปิดลงต่ำกว่า 1,810 ดอลลาร์

340
0
Share:
หุ้น

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 36,488 จุด +90 จุด หรือ +0.25% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,793 จุด +6 จุด หรือ +0.14% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,766 จุด -15 จุด หรือ -0.10% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์รวมถึง 70 ครั้งในปีนี้ ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 2 รองจากในปี 1995 ที่มีสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 77 ครั้ง

ในขณะที่ที่เหลือวันทำการซื้อขายอีกเพียง 2 วัน (ตามเวลาสหรัฐอเมริกา) ก่อนจะจบปีนี้ พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทะยานสูงถึง 19.2%, 27.6% และ 22.3% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนเริ่มขายทำกำไรกับราคาหุ้นในหลายกลุ่มที่มีราคาปรับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่นักลงทุนเริ่มคลายกังวลกับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยืนยันจากประธานาธิบดีสหรัฐว่า จะไม่ใช้มาตรการควบคุมและจำกัดการระบาดที่เข้มข้น เช่น การล็อกดาวน์ เป็นต้น

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 76.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.76% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 79.23 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.37%

สาเหตุนักลงทุนหวนกลับเข้าซื้อมากขึ้นจากความคึกคักของตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ตกลงมานานหลายวัน ทำให้นักลงทุนมองราคาปรับฐานทางเทคนิคมากขึ้น ท่ามกลางภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ ยุโรป และแอฟริกา สร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่จะขยายตัวในปีหน้า

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,805.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -0.3% สาเหตุจากนักลงทุนประเมินผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนพุ่งสูงทั่วโลก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อเนื่อง หลังผ่านพ้นการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐนัดสุดท้ายของปีนี้