ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งเฉียด 240 จุด น้ำมันดิบโลกปิดดิ่งแรงหลุด 86 ดอลลาร์

289
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งเฉียด 240 จุด น้ำมันดิบโลกปิดดิ่งแรงหลุด 86 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,152 จุด +239 จุด หรือ +0.71% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,305 จุด +8 จุด หรือ +0.19% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,102 จุด -25 จุด หรือ -0.19%

สาเหตุจากผลประกอบไตรมาส 2 ของวอลล์-มาร์ท และโฮมดีโป ออกมาอย่างดี เป็นไปตามที่ประเมินไว้ ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มค้าปลีกอื่นๆ มีราคาปรับตัวตามสูงขึ้น ท่ามกลางตลาดหุ้นสหรัฐยังอยู่ในช่วงเวลาฟื้นตัวจากสภาวะหมี หรือ Bear Market จากช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับปัจจัยบวกส่งต่อจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น ตัวเลขราคาสินค้าและวัตถุดิบนำเข้าในสหรัฐอเมริกาลดลง 1.4% นับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 เป็นต้นมา ตอกย้ำภาวะเงินเฟ้อทั่ว และขั้นพื้นฐานของผู้บริโภคและผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกาทรงตัวระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมตามที่ประกาศไปเมื่อวันพุธและพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อในทุกประเภทของสหรัฐอเมริกาอาจผ่านจุดสูงสุดแล้ว

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 86.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.2% โดยมีราคาต่ำสุดระหว่างวันไปแตะที่ 85.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบต่ำสุดนับตั้งแต่ 26 มกราคม หรือในรอบ 6 เดือน 3 สัปดาห์ นอกจากนี้ รวม 2 วันทำการติดกัน ราคาน้ำมันดิบร่วงลงถึง 5.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 92.34 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.9% โดยมีราคาต่ำสุดระหว่างวันไปแตะที่ 91.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบต่ำสุดนับตั้งแต่ 18 กุมภาพันธ์ หรือในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ รวม 2 วันทำการติดกัน ราคาน้ำมันดิบร่วงลงถึง 5.81 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สำหรับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งรายเดือนร่วงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่สำนักงานรอยเตอร์ส ปรับลดราคาน้ำมันดิบคาดการณ์เฉลี่ยทั้ง 2 แห่งในปี 2022 ลงมาอยู่ที่ 101.28 และ 105.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 3 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา

สาเหตุจากนักลงทุนรอติดตามการประเมินผลการตอบสนองของประเทศอิหร่านที่มีต่อมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการเจรจาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศอิหร่าน ตัวเลขสร้างอสังหาริมทรัพย์ใหม่เดือนกรกฎาคมในสหรัฐอเมริกาทรุดต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง เมื่อวานนี้ ภาวะเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านไปชะลอตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้ธนาคารกลางจีนต้องประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำคัญ 2 ประเภทที่เหนือคาดหมาย ทำให้นักลงทุนประเมินว่าจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันดิบมากอันดับ 1 ของโลก เผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างชัดเจน

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,789.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -5.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.50% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน ในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำล่วงหน้าปรับขึ้นกว่า 1%

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกกลับแข็งค่ามากขึ้น ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นในคืนผ่านมากลับมาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยบันทึกการประชุมธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา เพี่อประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่อาจชัดเจนมากขึ้น ถึงแม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินขั้นพื้นฐานเดือนกรกฎาคมของสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และยังลดต่ำลงจากเดือนก่อนหน้านี้ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี