ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งเฉียด 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 92 ดอลลาร์

245
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งเฉียด 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดขึ้นเหนือ 92 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 31,019 จุด +197 จุด หรือ +0.64% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,899 จุด +26 จุด หรือ +0.69% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,535 จุด +86 จุด หรือ +0.76% ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ร่วงลง -4.1%, -4.8% และ -5.5%

สาเหตุจากผลประกอบการของไนกี้ อินคอร์ปอเรชั่น ออกมาตามที่คาดไว้ ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนพลิกฟื้นขึ้นมาในช่วงปลายของการซื้อขายก่อนที่ตลาดหุ้นจะปิดทำการ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานเดือนสิงหาคมที่ประกาศไปเมื่อ 2 วันผ่านมา ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อบรรยากาศการลงทุนตลอดเวลา และนำไปสู่การตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นแรงขึ้นถึง 0.75% ในวันที่ 20-21 กันยายน

ขณะที่ ตัวชี้วัดโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ที่เรียกว่า ซีเอ็มอี เฟดวอท์ช พบว่า ขณะนี้มีโอกาสเต็ม 100% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.75% จากก่อนหน้านี้ที่มีโอกาส 90% นอกจากนี้ โอกาสขึ้นเป็น 32% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นถึง 1.00% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายนนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 85.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.7% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.7% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งร่วงลงเกือบ 2% สำหรับไตรมาสที่ 3 จนถึงปัจจุบัน พบว่า ทั้งราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ และไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา ดำดิ่งมากถึง 20% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายไตรมาสที่ตกต่ำมากที่สุดในรอบ 2 ปีกว่า หรือนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของโรคโควิด-19

สาเหตุจากปริมาณน้ำมันดิบโลกตึงตัวมีน้ำหนักมากกว่าความกังวลกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เนื่องจากกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสในเดือนสิงหาคมต่ำกว่าเป้าหมายถึง 3.583 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นเดือนที่ 2 ต่อเนื่องจากกรกฎาคมที่ลดต่ำจากเป้าหมายผลิตถึงวันละ 2.892 ล้านบาร์เรล

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,684.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง -0.64% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ราคาทองคำล่วงหน้าดำดิ่งลงปิดต่ำกว่า 1,680 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 2 ปี 4 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่อเมษายนปี 2020 เป็นต้นมา ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งแข็งค่ามากขึ้น และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะ 10 ปี พุ่งสูงขึ้นรับการประชุมของเฟดกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นถึง 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในวันที่ 20-21 กันยายนนี้