ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 130 จุด น้ำมันดิบโลกปิดดิ่งระนาวหลุด 78 ดอลลาร์

236
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดพุ่งกว่า 130 จุด น้ำมันดิบโลกปิดดิ่งระนาวหลุด 78 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,269 จุด +133 จุด หรือ +0.40% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,852 จุด +28 จุด หรือ +0.75% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,458 จุด +71 จุด หรือ +0.69%

สาเหตุจากนักลงทุนมองในมุมบอกระดับหนึ่งกับการผ่อนคลายการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หลังจากดัชนีภาคการผลิต ISM ในสหรัฐอเมริกากลับลดลงครั้งแรกในช่วง 30 เดือนที่เพิ่มขึ้นผ่านมา อย่างไรก็ตาม รายงานตำแหน่งงานเปิดใหม่และอัตราการเปลี่ยนงานในเดือนพฤศจิกายนปีผ่านไปกลับแสดงให้เห็นถึงภาวะตขาดแรงงานยังแข็งแรง

ขณะที่บันทึกการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด พบว่ามุมมองต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นให้สูงขึ้นยังคงต้องดำเนินต่อไปอีกพักใหญ่

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 72.84 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -4.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.3% ทำสถิติราคารายวันตกต่ำมากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน หรือนับตั้งแต่ธันวาคม 2565 ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 77.84 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -4.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.2% ทำสถิติราคารายวันร่วงมากที่สุดรอบกว่า 3 เดือน หรือตั้งแต่กันยายน 2565 ผ่านมา ในปีผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ทำสถิติดำดิ่งรุนแรงถึง -9.4% ใน 2 วันทำการติดต่อกันของการเริ่มซื้อขายเดือนมกราคม ซึ่งเลวร้ายที่สุดในรอบ 31 ปี หรือนับตั้งแต่มกราคมปี 1991 เป็นต้นมา

สาเหตุจากเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีสัญญาณชะลอตัวอย่างชัดเจน เมื่อดัชนีภาคการผลิต ISM ในสหรัฐอเมริกากลับลดลงครั้งแรกในช่วง 30 เดือนที่เพิ่มขึ้นผ่านมา จีนแผ่นดินใหญ่ประกาศเพิ่มโควต้าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปในชิปเม้นท์แรกของปี 2023 สะท้อนความต้องการบริโภคน้ำมันในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ตกต่ำอย่างมากจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวอย่างรุนแรงในปีผ่านไป

นอกจากนี้ ดัชนีชี้วัดการผลิตของโรงงานในจีนแผ่นดินใหญ่เดือนธันวาคมตกต่ำอย่างมากด้วย ปัจจัยต่อมาคือไอเอ็มเอฟเปิดเผยว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้ไม่สดใส และยากลำบากกว่าปีผ่านไป สาเหตุจากเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา จีนแผ่นดินใหญ่ และสหภาพยุโรปล้วนชะลอตัวลงในปีนี้ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งทะยานแข็งค่าใน 1 วัน ทำสถิติมากสุดในรอบ 2 สัปดาห์

ด้านซาอุดีอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันดิบชนิดเบาที่ส่งขายให้ประเทศในแถบเอเชียเริ่มมีผลในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ส่งผลราคาน้ำมันดิบชนิดเบาดังกล่าวมีราคาต่ำสุดในรอบ 10 เดือน สะท้อนปริมาณการผลิตน้ำมันดิบล้นตลาดบริโภคในเอเชีย

รวมถึงองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสาธารณสุขจีนที่อ้างว่าถึงแม้จะยังไม่พบการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่จีนเปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตในปัจจุบันที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก มีผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วมาก

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,859 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +14.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ +0.7% ในปีผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินราคาทองคำปีนี้จะเป็นปีที่อาจมีราคาทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ท่ามกลางปัจจัยหนุนส่งการลงทุนทองคำ ได้แก่ แนวโน้มธนาคารทั่วโลกเพิ่มการซื้อทองคำสำรองมากขึ้นด้วยการลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่ชัดเจนมากขึ้น วิกฤตเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและยังไม่สามารถลดลงกลับสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ในปีนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในคืนผ่านมาพุ่งแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ผ่านมา