ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดแคบๆ เกือบ 30 จุด

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,336 จุด +27 จุด หรือ +0.08% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,207 จุด -2 จุด หรือ -0.02% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,779 จุด -74 จุด หรือ -0.58%

สาเหตุจากนักลงทุนทำกำไรช่วงสั้นๆ หลังจากดัชนีหุ้นทั้ง 3 แห่งพุ่งทะยานสูงต่อเนื่องในช่วง 3 วันทำการก่อนหน้านี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานของผู้ผลิตสินค้า และผู้บริโภคทั่วไป ลดลงจากเดือนหน้านี้ และยังลงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาอาจผ่านจุดสูงสุดแล้ว

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 94.87 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +3.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.20% เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านไป มีราคาทำสถิติต่ำสุดในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ผ่านมา ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 100.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +3.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.7% เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมผ่านมา มีราคาทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สำหรับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งรายเดือนร่วงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่สำนักงานรอยเตอร์ส ปรับลดราคาน้ำมันดิบคาดการณ์เฉลี่ยทั้ง 2 แห่งในปี 2022 ลงมาอยู่ที่ 101.28 และ 105.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 3 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา

สาเหตุจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยการปรับขึ้นความต้องการใช้น้ำมันดิบตลาดโลกรายวันขึ้นอีก 380,000 บาร์เรลในปีนี้ สาเหตุจากราคาก๊าซธรรมชาติมีราคาแพงสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดิบมากขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,801.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -11.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.66% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้น ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นในคืนผ่านมาทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะมีมากขึ้น ถึงแม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินขั้นพื้นฐานเดือนกรกฎาคมของสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นแต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ และยังลดต่ำลงจากเดือนก่อนหน้านี้ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี