ดัชนีหุ้นดาวโจนส์พุ่งกระฉูดเกือบ 830 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลลงหลุด 96 ดอลลาร์

189
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ พุ่งกระฉูดเกือบ 830 จุด น้ำมันดิบโลกปิดลลงหลุด 96 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,861 จุด +828 จุด หรือ +2.59% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,901 จุด +93 จุด หรือ +2.46% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,102 จุด +309 จุด หรือ +2.87% ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง เพิ่มขึ้น +5.7%, +3.9% และ +2.2% ตามลำดับ โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์ พบว่า นับเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันที่ปิดขึ้นในแดนบวก ทำสถิติเป็นครั้งแรกในรอบเฉียด 1 ปี หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2021 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังเป็นดัชนีหุ้นดาวโจนส์รายสัปทะยานขึ้น 5.7% ที่ดีที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ที่สำคัญ ยังทะยานสูงถึง 14.06% นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ส่งผลทำสถิติรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 46 ปี 9 เดือน หรือตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 1976 หรือตั้งแต่ยุคประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานายโรนัลด์ เรแกน อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนตุลาคมในหลายปีผ่านมา พบว่าเป็นดัชนีหั่นดาวโจนส์เดือนตุลาคมที่ดีที่สุดในรอบ 126 ปี หรือนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งดัชนีหุ้นดาวโจนส์เมื่อปี 1896 เป็นต้นมา

สาเหตุจากปัจจัยบวกที่นักลงทุนประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาอาจไม่เร่งตัวอย่างรุนแรงอีกต่อไป มุมมองของผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาบางสาขาที่ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยที่ไม่รุนแรงมากหลังจากการประชุมในวันที่ 1-2 พฤศจิกายนที่ถูกคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้น 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ท่ามกลางปัจจัยลบที่นักลงทุนต้องผิดหวังกับผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีที่ทยอยประกาศออกมา ได้แก่ อัลฟาเบธ โดยยูทูปมีรายได้โฆษณาลดลงสวนความคาดหมาย ไมโครซอฟท์มีผลประกอบการลดลง เมตา อินคอร์ปอเรชั่น ที่มีผลขาดทุนไตรมาส 3 มากกว่า 140,000 ล้านบาท

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 87.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.18 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.3% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 95.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.2% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง เพิ่มขึ้น 3% และ 2% ตามลำดับ

สาเหตุจากรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่สั่งล็อกดาวน์เมืองสำคัญหลายแห่ง เช่น อู่ฮั่น กว่างโจว และซีหนิง หลังพบการระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น กระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจจีนที่ย่ำแย่อยู่แล้วให้รุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟลดเป้าเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้ลงอีกเหลือเพียง 3.2% จากเดิมที่ 4.4% ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับเพิ่มขึ้น

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,647.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -17.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.07% ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า รวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับเพิ่มขึ้น ตามด้วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2008