ดัชนีหุ้นนาสแดคพุ่งทะยานกว่า 120 จุด ราคาน้ำมันดิบปิดหลุด 84 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,258 จุด -36 จุด หรือ -0.10% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,486 จุด +15 จุด หรือ +0.34% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,021 จุด +124 จุด หรือ +0.84% สาเหตุจากผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกายังคงทยอยประกาศเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 และออกมาเป็นไปตามคาดหมาย เช่น กลุ่มเทคโนโลยี
.
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 82.40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.1% ในช่วงระหว่างวันนั้น มีราคาสูงสุดขึ้นแตะ 83.87 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี หรือตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.7% โดยในช่วงระหว่างวันนั้น มีราคาสูงสุดขึ้นแตะ 86.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018
.
สาเหตุจากตัวเลขการผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกาลดลงมากที่สุดในรอบ 7 เดือนผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะไมโครชิปขาดแคลนต่อเนื่อง ทำให้อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบ นอกจากนี้ กำลังการผลิตน้ำมันดิบจากเชลล์ออยล์ในสหรัฐอเมริกาอาจเพิ่มสูงขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
.
ขณะที่ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ รายงานว่าราคาก๊าซธรรมชาติที่มีราคาแพงต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันดิบไปผลิตก๊าซธรรมชาติแทน ส่งผลมีแนวโน้มใช้น้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้นวันละ 500,000 บาร์เรล นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัส เนื่องจากมติล่าสุดที่ตรึงกำลังผลิตไว้ที่เดือนละ 400,000 บาร์เรลนั้น ถือว่าเหมะสมและป้องกันราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนในระยะยาว
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,765.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -29.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.2% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับแข็งค่าขึ้น ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น 10 ปีกลับมาเพิ่มขึ้นในคืนที่ผ่านมา
