ดัชนีหุ้นไทยยังกลับหัวลง 8.32 จุด หลุด 1,400 จุดต่อ รับแรงกดดันจากบอนด์ยีลด์

240
0
Share:
ดัชนี หุ้นไทย ยังกลับหัวลง 8.32 จุด หลุด 1,400 จุดต่อ รับแรงกดดันจากบอนด์ยีลด์

ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทย วันนี้ (24 ต.ค. 66) แกว่งแดนลบตลอดทั้งวันหลังจากช่วงวันหยุดชดเชยตลาดภูมิภาคปรับตัวลงไปก่อนแล้ว รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากบอนด์ยีลด์ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ยังมีแรงขายทำกำไรจากกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันปรับลง โดยปิดตลาดดัชนียังหลุด 1,400 จุด อยู่ที่ 1,391.03 จุด ร่วงลงกว่า 8.32 จุด หรือ -0.59% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49,584.20 ล้านบาท ดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,387.60 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,398.73 จุด

ตลาด SET50 ปิดที่ 857.99 จุด ลดลง 5.94 จุด หรือ -0.69% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35,877.48 ล้านบาท

ส่วนตลาด mai ปิดที่ 407.93 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด หรือ+0.01% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,188.48 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นการปรับลงตามตลาดภูมิภาคที่ลงไปแล้ววานนี้ในช่วงที่บ้านเราเป็นวันหยุดชดเชย รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยรับแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันปรับลง

สำหรับ แนวโน้มพรุ่งนี้หากดัชนีไม่หลุดกรอบ 1,380-1,390 จุดอาจมีแรงซื้อกลับ จากปัจจุบันเข้าโซนขายมากเกินไป (Oversold) อีกทั้ง Valuation เพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น ขณะที่วันนี้จับตาการเปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในหลายประเทศสำคัญ วันพฤหัสติดตามธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย และการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/66 ของสหรัฐ รวมทั้งในวันศุกร์ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย.ของสหรัฐ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,390 จุด ส่วน 1,430 จุดเป็นแนวต้านแรก หากผ่านได้เปิดอัพไซด์ให้แนวถัดไปที่ 1,420 จุด

ขณะที่ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์
1. SCB มูลค่าการซื้อขาย 5,900.20 ล้านบาท ปิดที่ 96.00 บาท ลดลง 3.75 บาท
2. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,945.40 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
3. BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,495.40 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 5.50 บาท