ดับบลิวเอชเอส้มหล่นขายที่ดิน 600 ไร่ให้บีวายดีค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ตั้งโรงงานในไทย

490
0
Share:
ดับบลิวเอช เอส้มหล่นขายที่ดิน 600 ไร่ให้บีวายดีค่าย รถยนต์ไฟฟ้า จากจีน ตั้งโรงงานในไทย

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือ Hub EV ซึ่งการจะเป็นฮับนั้น ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลไทย ที่ประกาศให้ปี 2030 (2567) มียอดขายเป็น 30% ของยอดการผลิตทั้งปี

บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BYD ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มูลค่าการลงทุน 17,891 ล้านบาท ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินครั้งใหญ่ ที่นับว่าเป็นดีลใหญ่ที่สุดของ WHA โดย BYD จะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าพวงมาลัยขวาที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบเเบตเตอรี่ (BEV) เป็นหลัก บนพื้นที่จำนวน 600 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ในปี 2567 กำลังการผลิต 150,000 คัน/ปี เพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศในกลุ่มอาเซียนและยุโรป

ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า ไทยมีศักยภาพครบทุกอย่างที่จะเป็น Hub EV ปัจจุบันเรามีค่ายรถยนต์ที่ผลิตรถ EV รายใหญ่มาก ๆ อยู่ในนิคมของเรา อย่างเกรทวอร์มอเตอร์ (GWM) เซี่ยงไฮ้มอเตอร์ ที่ผลิต MG และรายล่าสุดคือ BYD เขาก็จะดึงซัพพรายเชนทั้งคลัสเตอร์เขามาด้วย นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณมาว่าผู้ผลิต EV Top 5 ก็จะมาลงทุนที่ไทย จึงไม่ยากที่ไทยจะเป็น Hub ตามที่วางไว้ และเราก็เตรียมเฟส 2 อีก 500 ไร่ รองรับซัพพรายเชนที่กำลังจะมาเพิ่มอีก”

สำหรับปี 2565 นี้ คาดว่า WHA จะมียอดขายที่ดินพื้นที่นิคมทะลุเป้าเป็น 1,650 ไร่ จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1,240 ไร่ ซึ่งปัจจุบันขายไปแล้ว 1,400 ไร่ พื้นที่ที่เหลืออีกเพียงไม่กี่ร้อยไร่จึงไม่ยาก และแน่นอนว่าจะส่งผลให้มีรายได้มากกว่าปี 2564 หรือมีการเติบโตเป็นตัวเลขถึง 2 หลัก และคาดว่าจะมียอดโอนที่เดินถายในปีนี้ หรือต้นปี 2566 ได้ถึง 1,100 ไร่