ดาวโจนส์ทะยานกว่า 380 จุด น้ำมันดิบปิดใกล้ 74 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,927 จุด +383 จุด หรือ +1.08% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,709 จุด +75 จุด หรือ +1.63% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,565 จุด +327 จุด หรือ +2.15%
สาเหตุจากนักลงทุนมีคลายกังวลกับการคาดการณ์ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น และแผนการเร่งยุติมาตรการคิวอีของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่ได้มีการคาดการณ์อย่างชัดเจนจากแบงก์ชาติสหรัฐอเมริกาในคืนที่ผ่านมาซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปีนี้ นอกจากนี้ แบงก์ชาติสหรัฐอเมริกามีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นต่อไปอีกด้วย

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 70.87 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.2% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 73.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.18 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.24%

สาเหตุจากนักลงทุนให้ความสำคัญกับบรรยากาศที่คึกคักของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาหลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเปิดเผยความชัดเจนในการคาดการณ์ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น และการเร่งยุติมาตรการคิวอีในระบบการเงินสหรัฐอเมริกา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางในช่วงต้นของการซื้อขายน้ำมันดิบซึ่งมีราคาร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ท่ามกลางรายงานการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายจากสายพันธุ์โอไมครอนในสหราชอาณาจักร ผลการศึกษาจากสหราชอาณาจักร พบว่าวัคซีนครบ 2 โดสมีประสิทธิภาพลดต่ำลงมากเมื่อเผชิญกับสายพันธุ์โอไมครอน รวมถึงองค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่าการระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวกระจายไปกว่า 70 ประเทศ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ เปิดเผยว่าสายพันธุ์โอไมครอนมีผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบในระยะเวลาหนึ่ง

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,764.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -0.4% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐนัดสุดท้ายของปีนี้ในคืนที่ผ่านมา พบว่ามีความชัดเจนในการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา โดยจะขึ้น 3 ครั้งในปี 2565