ดาวโจนส์ปิดกระเตื้อง 1 จุด น้ำมันดิบปิดดิ่งหลุด 107 ดอลลาร์

296
0
Share:

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,945 จุด +1 จุด หรือ +0.00% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,173 จุด -31 จุด หรือ -0.74% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 12,581 จุด -262 จุด หรือ -2.04% ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง -2.0%, -2.9% และ -3.5% ตามลำดับ

สาเหตุจากนักลงทุนรอการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ที่จะมีขึ้น 2 วันติดต่อกัน เริ่มวันอังคารนี้ ซึ่งตามที่คาดการณ์ไว้ จะเป็นการประชุมที่มีผลให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงคาดหวังการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนจะมีแนวโน้มในทางบวก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกร่วงลงกว่า 8% หลุดระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 103.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -6.32 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -5.78% ในช่วงระหว่างการซื้อขายราคาร่วงระนาวลงไปต่ำสุดระหว่างวันที่ 99.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือทรุดหนัก -8.75% ก่อนหน้านี้ ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านไป มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 106.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -5.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.1% ในช่วงระหว่างการซื้อขายราคาร่วงระนาวลงไปต่ำสุดระหว่างวันที่ 103.68 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือทรุดหนัก -8.00% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับในสัปดาห์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งร่วงระนาวถึง -5.7% และ -4.8% ตามลำดับ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งในแง่รายสัปดาห์ ทำสถิติปิดร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 หรือในรอบ 4 เดือน

สาเหตุจากรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศมาตรการปิดล็อกดาวน์เมืองขนาดใหญ่ทางเศรษฐกิจหลายแห่ง เช่น เซี่ยงไฮ้ เสิ่นเจิ้น เป็นต้น หลังพบการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สร้างความกังวลการใช้น้ำมันดิบลดลง ขณะที่นักลงทุนติดตามผลการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,955.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -41.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.5% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากนักลงทุนรอการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ที่จะมีขึ้น 2 วันติดต่อกัน เริ่มวันอังคารนี้ ซึ่งตามที่คาดการณ์ไว้ จะเป็นการประชุมที่มีผลให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี อย่างไรก็ตาม ยังคงให้ความสำคัญกับสถานการณ์วิกฤตรุนแรงของรัสเซียกับยูเครน หลังจากการเจรจาต่อรองของรัฐมนตรีต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศ แทบไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดแข็งค่า รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี กลับมาปิดเหนือ 2%