ดาวโจนส์ปิดขึ้นเบาบางกว่า 20 จุด น้ำมันดิบพุ่งยืนเหนือ 114 ดอลลาร์

284
0
Share:

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,223 จุด +26 จุด หรือ +0.08% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,008 จุด -15 จุด หรือ -0.39% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 11,662 จุด -142 จุด หรือ -1.20%ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่งเลี่ยงไม่พ้นที่ยังคงทำสถิติตกต่ำรายสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดำดิ่งลงถึง -2.14% ทำสถิติดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ที่ปิดติดลบถึง 7 สัปดาห์แรกติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดในรอบ 21 ปี หรือตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง -2.4% ทำสถิติดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ดำดิ่งติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 11 ปี หรือตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา และดัชนีหุ้นนาสแดครายสัปดาห์ดำดิ่งมากถึง -2.8% ที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นนาสแดคเข้าสู่ภาวะตลาดหมี หรือ Bear Market เนื่องจากร่วงลงเหวถึง -25.18% จากสถิติสูงสุดระหว่างวันมากเป็นประวัติการณ์ผ่านมา

สาเหตุจากนักลงทุนยังคงมีความกังวลในการลงทุน แม้จะหวนกลับเข้าซื้อหุ้นในหลายกลุ่มที่มีราคาตกต่ำอย่างรุนแรงนับตั้งแต่ตันสัปดาห์ทึ่ผ่านไป เช่น กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสถาบันการเงิน เป็นต้น ท่ามกลางปัจจัยลบของอัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนของสหรัฐอเมริกาที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 8.2% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาในแง่เฉลี่ย 1 ปี ยังคงอยู่ในระดับสูงสุดที่ 8.5% ในรอบ 40 ปีต่อเนื่อง ยังคงสร้างแรงกดดันต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาต่อไป

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 114.20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา +3.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.4% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 114.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.69 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.4% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง พบว่าราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 แต่สวนทางกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ที่ปิดลดลงครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ผ่านมา

สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่เริ่มควบคุมในระดับที่เห็นสัญญาณการติดเชื้อรายวันลดลง รวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่อาจกลับมาฟื้นตัวขึ้น สะท้อนความต้องการใช้น้ำมันดิบทยอยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมันสำเร็จรูปโดยเฉพาะเบนซินในสหรัฐอเมริกามีราคาขายปลีกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ เป็นผลจากปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดต่ำลงมากกว่าที่ประเมินไว้ และยังลดต่ำลงถึง 6 สัปดาห์ติดต่อกันด้วย

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,814 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +6 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำร่วงลงมากถึงเกือบ -4% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มทรงตัวอยู่ในสถิติระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีครั้งใหม่ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นกลับทรงตัวแตะ 3% สูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 3 ปี หลังเงินเฟ้อในเมษายนของสหรัฐอเมริกายังคงเพิ่มขึ้นที่ระดับ 8.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้