ดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 250 จุด น้ำมันดิบลดลงเหนือ 111 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,807 จุด +254 จุด หรือ +0.74% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,511 จุด +50 จุด หรือ +1.13% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 14,108 จุด +270 จุด หรือ +1.95%
.
สาเหตุจากผลประกอบการของไนกี้ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกลับมาถูกซื้ออย่างคึกคัก ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น 10 ปี พุ่งขึ้นสูงถึง 2.39% สูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ท่ามกลางเมื่อวานนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อสูงสูงมากเกินไป ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะใช้มาตรการที่จำเป็นที่จะควบคุมตัวเลขเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นอาจเพิ่มสูงมากกว่าก่อนหน้านี้ที่ปรับขึ้น 0.25% ถ้าจำเป็น
.
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 111.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ผ่านมา มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 115.48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
สาเหตุจากนักลงทุนประเมินว่ากลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู ที่เตรียมพิจารณามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซียนั้น อาจจะไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากขึ้น สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น 10 ปี พุ่งขึ้นสูงถึง 2.39% สูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,924.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -4.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.4% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามากขึ้น รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นกว่า 2% มากสุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในรอบ 2 ปีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังคงให้ความสำคัญกับสถานการณ์วิกฤตรุนแรงของรัสเซียกับยูเครน หลังจากการเจรจาต่อรองของรัฐมนตรีต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศ แทบไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
