ผลตอบแทนหุ้นไทยติดลบ 13% ทำต่างชาติขนเงินกลับ 1.7 แสนล้าน ถูกสุดรอบ 15 ปี

362
0
Share:
ผลตอบแทน หุ้นไทย ติดลบ 13% ทำต่างชาติขนเงินกลับ 1.7 แสนล้าน ถูกสุดรอบ 15 ปี

นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนโค้งสุดท้ายของปี 2566 ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกที่ผันผวนสูงมากในช่วงสั้น ทำให้ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนติดลบกว่า 13% แต่เนื่องจากราคาที่ถูกของหุ้นไทยในตอนนี้ จึงยังแนะนำให้หาจังหวะลงทุนในหุ้นไทยที่มีปันผลสูง เพราะราคาหุ้นได้ลดลงมากแล้ว ทำให้หุ้นที่มีปันผลสูงจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ เมื่อเหตุการณ์ตะวันออกกลางคลี่คลาย โดยคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยเป้าหมายในปี 2567 ที่ระดับ 1,560-1,650 จุด

จากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นผ่านการขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้งของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก จนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) สูงสุดในรอบกว่า 10 ปี สภาพคล่องภายในลดลงอย่างมาก รวมถึงความไม่มีเสถียรภาพของปัจจัยทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก ความตึงเครียดของภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยกว่า 1.7 แสนล้านบาท เกือบ 84% ของเม็ดเงินที่ไหลเข้าในปี 2565 แต่ซื้อพันธบัตรเบาบางแค่ 2 หมื่นล้านบาทบาทเท่านั้น

สำหรับตลาดหุ้นไทยปี 2567 เป็นบวกจากมูลค่าหุ้น (แวลูเอชั่น) ใน Forward P/Book Value ที่ถูกเป็นอันดับ 3 ในรอบ 15 ปี การเติบโตของจีดีพีที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกเติบโตลดลง ดอกเบี้ยทั่วโลกเริ่มถึงจุดอิ่มตัว และจะปรับตัวลดลงในกลางปี 2567 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีกำไรต่อหุ้นที่เติบโตกว่า 15% ในปี 2567 เทียบกับติดลบ 5% ในปี 2566 ทำให้หุ้นไทยจะ outperform หุ้นโลก เนื่องจาก 1.การเติบโตของจีดีพีไทยจะดีกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นโลก 2.แวลูเอชั่นหุ้นไทยยังคงไม่แพงในแง่ราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี และในเชิง Earning Yields Gap หรือส่วนกลับของ P/E กับผลตอบแทนพันธบัตร

ส่วนแนวโน้มเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) จะขายหุ้นไทยน้อยลง เนื่องจากปี 2566 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยกว่า 1.6-1.7 แสนล้านบาท หลังจากเป็นฝ่ายซื้อสุทธิกว่า 2 แสนล้านบาทในปี 2565 ถือได้ว่านักลงทุนต่างชาติเป็นฝ่ายขายสุทธิกว่า 8 แสนล้านบาทในรอบ 13 ปี ตั้งแต่การใช้มาตรการคิวอีเป็นต้นมา รวมถึงมองว่า ในปี 2567 นักลงทุนจะเป็นฝ่ายซื้อตราสารทุนสุทธิ แต่จะขายตราสารหนี้สุทธิ โดยปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติถือพันธบัตรไทยประมาณ 9.4 แสนล้านบาท หรือ 11.6% และน้ำหนักของพันธบัตรประเทศไทยใน JP Morgan Local Government Bond index (GBI-EM GD) อยู่ที่ 10% แต่ในช่วงระยะเวลา 10 เดือน นับตั้งแต่ 28 มิถุนายน 2024 น้ำหนักของพันธบัตรประเทศอินเดียจะถูกรวมเข้าคำนวณในดัชนี อาจทำให้ฟันด์โฟลว์ไหลออกจากพันธบัตรไทย 1.7 แสนล้านบาท เพื่อถูกแทนที่โดยน้ำหนักการลงทุนของพันธบัตรประเทศอินเดีย