ดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 300 จุด น้ำมันดิบปิดดิ่งแรงหลุด 119 ดอลลาร์

284
0
Share:
หุ้น

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 30,668 จุด +303 จุด หรือ +1.00% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,789 จุด +54 จุด หรือ +1.46% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,099 จุด +270 จุด หรือ +2.50%

อย่างไรก็ตาม ยังคงส่งผลให้ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ดำดิ่งรุนแรงถึง -17%, -21% และ -32% จากสถิติดัชนีหุ้นสูงสุดของแต่ละดัชนีเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2564 ทำให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 เข้าสู่ภาวะตลาดหมี หรือ Bear Market สมบูรณ์แบบ และยังทำสถิติปิดต่ำสุดในรอบ 1 ปี 2 เดือน หรือนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ปี 2564 ดังนั้น ยังคงเหลือดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่เข้าใกล้ภาวะตลาดหมี หรือ Bear Market

สาเหตุจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 0.75% ทำสถิติปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวมากที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา เพื่อต่องการแก้ปัญหาอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคมพุ่งทะยานแตะ 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ทำสถิติอัตราเงินเฟ้อเร่งขึ้นสูงสุดในรอบ 41 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1981 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อดังกล่าวพุ่งสูงถึง 1% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วย ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาพลังงานและอาหาร พุ่งสูงถึง 6.0% การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคเดือนพฤษภาคมดังกล่าว ยังพบว่าพุ่งสูงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเงินเฟ้อทั่วไป และขั้นพื้นฐานในเดือนพฤษภาคมของสหรัฐอเมริกา ถูกคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.3% และ 5.9% ตามลำดับ

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 115.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -3.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.04% โดยมีราคาระหว่างวันร่วงลงต่ำสุดที่ 114.60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 118.51 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.2% โดยมีราคาระหว่างวันร่วงลงต่ำสุดที่ 117.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนเพิ่มความกังวลสูงขึ้นว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกจะลดลงอย่างมาก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นอัคราดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 0.75% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 28 ปี เนื่องจากจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจเกิดการชะลอตัวถึงขั้นภาวะถดถอย นอกจากนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกายังพุ่งขึ้นทำสถิติแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 20 ปี หรือตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา ในขณะที่ปริมาณกำลังผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นอีกวันละ 100,000 บาร์เรลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านไป ทำให้กำลังผลิตน้ำมันดิบเพิ่มมาอยู่ที่วันละ 12 ล้านบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี 1 เดือน หรือนับตั้งแต่เมษายน ปี 2020

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,819 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +5.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.3% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 0.75% ในคืนที่ผ่านมา ถือเป็นความชัดเจนในการเร่งแก้ปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่พุ่งสูงในรอบ 41 ปี อย่างไรก็ตาม ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาพุงขึ้นสูงสุดในรอบ 20 ปี สอดรับกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 20 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นกลับเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่สูงกว่าระดับ 3%