ดาวโจนส์ปิดพุ่งเกือบ 350 จุด น้ำมันดิบปิดร่วงหลุด 120 ดอลลาร์

355
0
Share:

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,707 จุด +349 จุด หรือ +1.02% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,520 จุด +63 จุด หรือ +1.43% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 14,191 จุด +269 จุด หรือ +1.93%
.
สาเหตุจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลง ท่ามกลางแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐ ที่อาจสูงถึงครั้งละ 0.5% ยังคงเป็นน้ำหนักถ่วงการลงทุน อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของหุ้นที่ทยอยประกาศในคืนผ่านมา ยังคงเป็นปัจจัยบวกในการลงทุน
.
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 112.82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -1.8% ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ผ่านมา มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 119.61 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.6% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
สาเหตุจากสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรในยุโรป มีการหารือในการพิจารณาร่วมปล่อยน้ำมันดิบสำรองเชิงยุทธศาสตร์เข้าสู่ตลาดโลก เพื่อกดดันราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ เหตุการณ์ท่อส่งน้ำมันดิบจากประเทศคาซัคสถานผ่านทะเลดำได้รับความเสียหายจากพายุพัดผ่าน ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณน้ำมันดิบจากประเทศคาซัคสถานหายไปจากตลาดโลกราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 1.2% ของความต้องการน้ำมันดิบในตลาดโลกนั้น มีรายงานว่า อาจกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้บางส่วน
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,962.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +24.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.3% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัว รวมถึงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ทรงตัวกว่า 2% ยังมีสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในรอบ 2 ปีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังคงให้ความสำคัญกับสถานการณ์วิกฤตรุนแรงของรัสเซียกับยูเครน หลังจากการเจรจาต่อรองของรัฐมนตรีต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศ แทบไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด