ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 170 จุด น้ำมันดิบทำกำไร ปิดลงกว่า 84 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 36,113 จุด -176 จุด หรือ -0.49% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,659 จุด -67 จุด หรือ -1.42% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 14,806 จุด -381 จุด หรือ -2.51%
สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับมาให้น้ำหนักธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเร่งลดดอกเบี้ยระยะสั้น หลังจากเมื่อคืนวานก่อนนี้ ภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธันวาคม 64 พุ่งทะยานถึง 7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว และยังเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปี 64 กลายเป็นสถิติเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่นักลงทุนกำลังรอฤดูกาลแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 64 ของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 82.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.63% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 84.47 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.24%
สาเหตุจากนักลงทุนทำกำไรช่วงสั้นๆ หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกมีราคาพุ่งสูงขึ้นในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีสถิติราคาสูงสุดในรอบ 2 เดือนกว่า 84 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนยังคงอยู่ในความกังวลที่อาจส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,821.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -5.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.3% สาเหตุจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ย้อนกลับสูงขึ้น ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังทรงตัว
