ดาวโจนส์ปิดร่วงอีกกว่า 180 จุด น้ำมันดิบปิดกระฉูดเฉียด 128 ดอลลาร์

318
0
Share:

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,632 จุด -184 จุด หรือ -0.56% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,170 จุด -30 จุด หรือ -0.72% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 12,795 จุด -35 จุด หรือ -0.28% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เข้าสู่ภาวะปรับฐานลึกขึ้น เนื่องจากตกต่ำมากกว่า 10% จากสถิติสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา ส่วนดัชนีหุ้นนาสแดคเข้าสู่ภาวะหมีหนักมากขึ้น เนื่องจากตกต่ำมากกว่า 20% จากสถิติสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินภาวะสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ได้แก่ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ นิเกิล พัลลาเดียม ไททาเนียม ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าที่เคยมีมา และกระทบการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากวิกฤตสงครามรัสเซียกับยูเครน นอกจากนี้ สถานการณ์วิกฤตระหว่างรัสเซียและยูเครนเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบของโลกตะวันตกกับรัสเซีย ที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งทะยานสูงสุดในรอบ 13 ปีถึงกว่า 130 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 123.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +4.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +3.6% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ มีราคาระหว่างการซื้อขายพุ่งขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 128 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือพุ่งกว่า +7% ทำสถิติราคาสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 หรือในรอบ 14 ปี

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 127.98 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +4.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.9% ทำสถิติราคาปิดสูงสุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2013 หรือในรอบ 9 ปี และในเมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาระหว่างการซื้อขาย พุ่งขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 132.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ยังมีสถิติใกล้เคียงราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 ราคาเบร็นท์ อังกฤษ ขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน ประกาศมาตรการคว่ำบาตรพลังงานกับรัสเซีย ได้แก่ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน นอกจากนี้ ก่อนที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะประกาศมาตรการดังกล่าวในคืนที่ผ่านมา รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศมาตรการจำกัดการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย โดยจะทยอยลดลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงสิ้นปี 2565 นักลงทุนจับตามองการประชุมแบงก์ชาติสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์หน้า ที่จะมีการประบขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรก ซึ่งส่งผลค่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 2,058 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +56.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.1% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 เดือน สอดคล้องกับราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot พุ่งทะยานขึ้นปิดที่ 2,051 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +2.7% โดยมีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของทั้งรัสเซียและยูเครน โดยมองว่ามาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกมีความรุนแรงมากขึ้นกับระบบการเงินระหว่างประเทศกับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดแข็งค่าต่อเนื่อง และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นอายุ 10 ปี ยังคงต่ำกว่า 2%