ดาวโจนส์ปิดลงเกือบ 40 จุด น้ำมันดิบปิดเหนือกว่า 112 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,411 จุด -39 จุด หรือ -0.11% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,391 จุด -0.90 จุด หรือ -0.02% และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 13,332 จุด -18 จุด หรือ -0.14%
.
สาเหตุจากนักลงทุนชั่งน้ำหนักระหว่างผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเริ่มทยอยประกาศออกมากับตัวเลขภาวะเงินเฟ้อเดือนมีนาคมในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 8.5% ซึ่งจะทำสถิติเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 41 ปี หรือนับตั้งแต่ธันวาคม 1981 นอกจากนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะกลางอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 2.8% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปีกว่า หรือตั้งแต่มกราคม 2919 ทั้ง 2 ปัจจัยสำคัญ ยังคงส่งผลกดดันการส่งสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาที่จะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย และปรับส่วนต่างดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้
.
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 107.80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 112.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
สาเหตุจากลิเบียประสบปัญหาการส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลก กลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู เตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันดิบจากประเทศรัสเซียแบบเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้สมาชิกกลุ่มอียูได้ทยอยปรับเปลี่ยนการใช้น้ำมันดิบจากรัสเซียไปเป็นนำเข้าจากประเทศอื่นแทน นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบราววันละ 3 ล้านบาร์เรลจากรัสเซียจะเริ่มหายจากตลาดโลกในเดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,986.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทะยานขึ้น +11.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.6% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจากนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการปิดความเสี่ยงกับภาวะเงินเฟ้อท่ามกลางตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่พึ่งสูงในรอบ 41 ปี สร้างแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่ไม่มีสัญญาณการผ่อนคลายลงแต่อย่างใด นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลง รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี เคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ