ดาวโจนส์ฟื้นทะยานกว่า 230 จุด น้ำมันดิบปิดร่วงเหลือกว่า 102 ดอลลาร์

313
0
Share:
หุ้น

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,049 จุด +238 จุด หรือ +0.70% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,296 จุด +24 จุด หรือ +0.57 % และดัชนีหุ้นนาสแดค อยู่ที่ระดับ 13,004 จุด +165 จุด หรือ +1.29% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติทรุดลงเหวหนักที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี 6 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม ปี 2020 และยังทรุดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน สอดคล้องกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ตกต่ำมากที่สุดในรอบ 2 เดือน และยังทรุดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ดำดิ่งมากถึง -1.9%, -2.8% และ -3.8% ตามลำดับ
.
สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับซื้อหุ้นที่มีราคาตกต่ำอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป นอกจากนี้ เมื่อคืนผ่านมา ทวิตเตอร์สื่อโซเชียลยักษ์ใหญ่ประกาศขายกิจการด้วยการตกลงรับการเสนอซื้อมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.5 ล้านล้านบาทจากนายอีลอน มัสค์ มหาเศรษฐีและซีอีโอค่ายรถยนต์เทสลา ส่งผลให้หุ้นบริษัทอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีมีราคากลับมาคึกคัก
.
อย่างไรก็ตามแรงส่งของปัจจัยลบเกี่ยวกับประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา นายเจอร์โรม พาวเวลล์ กล่าวในการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศเมื่อวันพุธว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอาจมีถึง 0.5% ในการประชุมเดือนพฤษภาคมนี้ อัตราอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในระดับสูงมาก และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ปรับสูงขึ้นครั้งใหม่มาอยู่ที่ 2.9% ยังคงเป็นปัจจับลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ
.
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 98.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -3.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -3.5% ก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 102.32 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -4.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.1% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
ราคาปิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 นอกจากนี้ ยังมีราคาตกต่ำมากถึง 25% จากสถิติราคาสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมาด้วย ในสัปดาห์ที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ตกต่ำมากเกือบ -5%
.
สาเหตุจากมาตรการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ที่มีแนวโน้มจะขยายระยะเวลาออกไปอีก หลังจากยอดติดเชื้อรายวันยังทรงตัวกว่า 20,000 ราย และยอดเสียชีวิตรายวันพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 5 วันติดต่อกัน ส่งผลความต้องการใช้น้ำมันดิบจีนลดลงต่อเนื่อง จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก นอกจากนี้ ความกังวลในการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในวันที่ 3-4 พฤษภาคมนี้ ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 0.5% ส่งผลให้ฉุดภาวะเศรษฐกิจมีผลต่อการใช้น้ำมันดิบโลก นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกในปีนี้ลงเกือบ 1% รับผลพวงสงครามรัสเซียกับยูเครน กดดันความต้องการใช้น้ำมันดิบโลกลดลง
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,898.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -35.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.84% ส่งผลให้ราคาทองคำล่วงหน้าทำสถิติปิดต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี หรือตั้งแต่มีนาคม ปี 2020 เป็นต้นมา หลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาเซนต์หลุยส์ มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอาจเพิ่มมากขึ้นถึง 0.75% รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ปรับสูงขึ้นครั้งใหม่