ดิ่งแรง! มูลค่าซื้อขายคริปโทฯ ทั่วโลกวูบหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้

246
0
Share:
ดิ่งแรง! มูลค่าซื้อขาย คริปโทเคอร์เรนซี ทั่วโลกวูบหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้

CCData ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย รายงานว่า ปริมาณการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกในไตรมาส 2/2566 ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2562 แม้ว่ากิจกรรมการซื้อขายพุ่งขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย. ก็ตาม

ปริมาณการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีเพิ่มขึ้น 16.4% สู่ระดับ 5.75 แสนล้านดอลลาร์ในเดือน มิ.ย. ซึ่งปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน แต่ปริมาณการซื้อขายโดยรวมในไตรมาส 2/2566 ลดลง 40% จากไตรมาส 1 สู่ระดับ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ และลดลง 62% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2565

บริษัทไบแนนซ์มีส่วนแบ่งในตลาดซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ลดลง 1.4% สู่ระดับ 42% ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 4 เดือน โดยส่วนแบ่งตลาดของไบแนนซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโทฯ รายใหญ่ที่สุดในโลกนั้นลดลงมากที่สุด และลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2565

ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทคอยน์เบส โกลบอล ลดลง 0.08% สู่ระดับ 5.36% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงน้อยที่สุดในบรรดาบริษัทรายใหญ่ที่ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงกรณีที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐได้ยื่นฟ้องต่อศาลกรุงนิวยอร์ก เพื่อให้ดำเนินคดีกับบริษัทคอยน์เบส โดยระบุว่าคอยน์เบสได้ดำเนินธุรกิจโบรกเกอร์และแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกร้องให้ศาลมีคำสั่งให้คอยน์เบสยุติการให้บริการดังกล่าวเป็นการถาวร

นอกจากนี้ SEC ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในกรุงวอชิงตันดีซีให้ดำเนินคดีกับบริษัทไบแนนซ์ และนายจ้าว ฉางเผิง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของไบแนนซ์ เนื่องจากบริษัทไม่ได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อสกัดกั้นลูกค้าชาวสหรัฐในการเข้าใช้แพลตฟอร์ม และทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเฝ้าติดตามตลาด ตลอดจนการดำเนินการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน นอกจากนี้ ไบแนนซ์และนายจ้าวได้เข้าควบคุมสินทรัพย์ของลูกค้าอย่างลับๆ ด้วยการโยกเงินของลูกค้า และสร้างบริษัทในสหรัฐขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นความพยายามที่จะทำให้เกิดความซับซ้อนและหลีกเลี่ยงกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ