ดุสิตโพลชี้ชัด 60% ไม่ควรเปิดประเทศวันที่ 1 พ.ย.นี้

339
0
Share:
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ผลสำรวจประชาชนกว่า 59% เห็นว่ายังไม่ควรเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายนนั้น นโยบายการเปิดประเทศเป็นความร่วมมือหลายภาคส่วน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนให้เกิดความปลอดภัยเรื่องสุขภาพ สำหรับการผ่อนคลายมาตรการที่มากขึ้น เรามีความพร้อม เตรียมวัคซีนโควิดครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายให้เกิดความปลอดภัย มาตรการเฝ้าระวัง คัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ
.
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หากดูแนวโน้มแต่ละประเทศทั่วโลก หลังจากที่ไทยประกาศเปิดประเทศ หลายประเทศก็ประกาศตาม เช่น อินโดนีเซีย เป็นต้น เนื่องจากระยะหลังแม้ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่อัตราป่วยและอัตราเสียชีวิตลดลง
.
เชื่อว่าการเปิดประเทศจะเกิดผลดีมากกว่า เพราะหากปิดล็อกดาวน์ก็ไม่จบเสียที เชื่อว่าจะจบได้หากปลายปี 2564 เราฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ได้อย่างน้อย 80% ส่วนเข็ม 2 ก็จะฉีดให้ได้อย่างน้อย 70% ตรงนี้ก็จะให้เกิดความมั่นใจว่า หากติดเชื้อก็จะอาการไม่รุนแรง ไม่เสียชีวิต เปิดประเทศด้วยความมั่นใจ ขอให้ทุกคนเข้ามารับวัคซีน
.
ขณะที่เมื่อวานนี้ 17 ตุลาคม 2564 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “เปิดประเทศ 1 พ.ย.64” กลุ่มตัวอย่าง 1,392 คน ระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม 2564 พบว่า ประชาชนมองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ร้อยละ 60.10
.
ปัจจัยที่จะทำให้เปิดประเทศได้ คือต้องฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนได้เกิน 70% ร้อยละ 74.78 และมองว่าข้อจำกัดคือ ประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน ร้อยละ 71.60 ผลดีของการเปิดประเทศคือ กระตุ้นเศรษฐกิจ ร้อยละ 77.29 ผลเสียคือ อาจเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 83.43 และภาพรวมประชาชนไม่เห็นด้วยกับการเปิดประเทศ 1 พ.ย. 2564 ร้อยละ 59.86
.
จากผลการสำรวจเมื่อพิจารณากลุ่มตัวอย่างจำแนกรายอาชีพ พบว่า กลุ่มอาชีพประกอบธุรกิจเห็นด้วยกับการเปิดประเทศมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มรับจ้าง/ลูกจ้าง ถึงแม้ว่าจะกังวลเรื่องการติดเชื้อใหม่ แต่ก็คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเกิดการจ้างงานมากขึ้น สร้างความหวังที่จะลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรมีมาตรการรองรับที่ชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งด้านสุขภาพและการฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน