ด้อยค่าเละอีก! นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกพูดชัดวงการคริปโทไม่ต่างจากระบบตลาดทุนคอรัปชั่น

นายนูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา และศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กล่าวบนเวทีสัมมนานานาชาติสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีที่เมืองอาบู ดาบี ว่า สินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซี และแพลตฟอร์มทางธุรกิจที่อยู่ในตลาดเงินดังกล่าว ไม่แตกต่างจากการเกิดขึ้นของระบบนิเวศคอรัปชั่นสมบูรณ์แบบ

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ทั่วโลกทราบดีว่าเอฟทีเอ็กซ์ แพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกล้มละลาย และขออำนาจศาลพิทักษ์ทรัพย์สินทั้งหมดตามกฎหมายมาตรา 11 ในสหรัฐอเมริกานั้น นูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า บทเรียนที่ได้จากในช่วงเกือบ 1 สัปดาห์ผ่านมา หมายถึง กลุ่มคนพวกนี้ต้องออกไปจากระบบนี้ได้แล้ว

ศาสตราจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตราจารย์ ประจำมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กล่าวต่อไปว่า สินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซี คือระบบนิเวศที่ประกอบด้วย 7C ประกอบด้วย Concealed หมายถึงการถูกปกปิด Corrupt หมายถึงการคอรัปชั่น Criminal หมายถึงอาชญากรรม Crooks หมายถึง การคดโกงและคนคดโกง Con Men หมายถึงกลุ่มคนที่จงใจหลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อในบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เป็นความจริง Carnival Barker คือบุคคลที่เล่นปาหี่ เชิญชวนด้วยวิธีการบันเทิงเริงรมย์ต่างๆ และ C ตัวสุดท้ายนั้น หมายถึง CZ ซึ่งเป็นตัวย่อจากชื่อเต็ม Chanpeng Zhao ของนายจางเผิง จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ไบแนนซ์ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กล่าวต่อไปว่า แทบไม่เชื่อเลยว่า นายจางเผิง จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ไบแนนซ์ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจซื้อขายเวินคริปโทเคอร์เรยซีในประเทศสหรัฐ อาหรับ เอมิเรต ทั้งๆที่ ซีอีโอ ไบแนนซ์ถูกทางการสหราชอาณาจักรห้ามไม่ให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว และถูกสอบสวนในคำร้องเป็นอาชญากรรมการฟอกเงินโดยกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา

นายนูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา และศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับในตลาดทุนทั่วโลกหลังจากเป็นผู้ที่คาดการณ์ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาล่มสลายจากตราสารที่มีชื่อว่าซับไพรม์ (Subprime) เมื่อปี 2007-2008 ในที่สุด การคาดการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริง ส่งผลกระทบเป็นวิกฤตเศรษฐกิจการเงินกระทบไปทั่วโลก

ขณะที่เมื่อวานนี้ นายชาร์ลี มังเกอร์ รองประธาน บริษัทเบิร์กไชร์ ฮัททะเวย์ และมหาเศรษฐีนักลงทุนหุ้นชื่อดังระดับโลก รวมถึงยังเป็นผู้บริหารระดับสูงรองจากนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทดังกล่าว กล่าวว่า เงินคริปโทเคอร์เรนซีมีทั้งการฉ้อโกง และการหลอกลงให้หลงผิด นั่นคือส่วนผสมที่แย่มาก คนจำนวนไม่น้อยคิดไปเองว่าเงินคริปโทเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์แท้จริง แต่กลับตรงกันข้าม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สินทรัพย์แท้จริงแต่อย่างใด

รองประธานบริษัทเบิร์กไชร์ ฮัททะเวย์ กล่าวต่อไปว่า เป็นสิ่งที่เสียสติ และสมองเสื่อมที่จะคิดไปว่าใครสักคนสามารถขุดเหรียญดิจิตอลใหม่ ที่สามารถเปลี่ยนเด็กอายุ 12 ขวบให้กลายเป็นมหาเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืน