ตรุษจีนดันเงินเฟ้อม.ค.63พึ่งรอบ 8 เดือน

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ เงินเฟ้อ เดือนมกราคม 2563 เท่ากับ 102.78 สูงขึ้น 1.05% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสูงสุดในรอบ 8 เดือน
.
สาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของหมวดอาหารสด เนื่องจากเป็นช่วงตรุษจีน อีกทั้งหมวดพลังงานกลับมาขยายตัวอีกครั้งในรอบ 9 เดือน ขณะที่การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ 2563 ทาง สนค. คาดการณ์ไว้อยู่ที่ 0.4-1.2% เฉลี่ยค่ากลางอยู่ที่ 0.8% ภายใต้สมมุติฐานทั้งปี 2563 ที่ GDP เติบโต 2.7-3.7% ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 58-68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนอัตราแลกเปลี่ยน 30-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
.
โดยเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในเดือนมกราคม มาจากปัจจัยของหมวดอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สูงขึ้น 1.82% จากข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง โดยเฉพาะข้าวสารเหนียว ขณะที่ความต้องการอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
.
ส่วนสินค้าที่ลดลง เช่นกลุ่มผักสด เช่น ผักกาดขาว ผักชี มะนาว จากผลผลิตที่มากขึ้นตามสภาพอากาศ
.
ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 1 มองว่าจะอยู่ที่ 0.8% ไม่ถึง 1% ตามที่คาด เนื่องจากมีปัจจัยมากระทบ เช่น ภัยแล้งที่อาจทำให้ราคาอาหารสูงขึ้น แต่ก็คาดหวังว่าราคาน้ำมันจะทรงตัว ส่วนปัญหาเรื่องของไวรัสโคโรน่า ยังไม่ได้ประเมินว่าจะกระทบต่อเงินเฟ้อหรือไม่ คาดว่าในเดือนหน้าน่าจะรู้ผล
.
สำหรับราคาสินค้าและบริการในเดือนมกราคม 2563 จำนวน 422 รายการ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ามีสินค้าปรับสูงขึ้น 238 รายการ อาทิ ข้าวสารเหนียว ข้าวสารเจ้า เนื้อสุกร ไข่ไก่ กับข้าวสำเร็จรูป น้ำมันดีเซล ค่าโดยสารรถประจำทาง ค่าเดินทางไปเยี่ยมญาติและทำบุญ ค่าเช่าบ้าน
.
ส่วนราคาสินค้าที่ลดลงมี 106 รายการ อาทิ ผักกาดขาว ผักชี มะนาว มะเขือเทศ พริกสด มะเขือ ต้นหอม ลองกอง นมผง และสินค้าที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา 78 รายการ