ม.หอการค้าเร่งรัฐดูแลภัยแล้ง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้มีแนวโน้มที่รุนแรง แม้รัฐบาลจะยังไม่ประกาศเตือนภัยครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ก็เห็นปัญหาแล้วในพื้นที่หลายจังหวัด แม้เวลานี้ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่กระทบกับผลผลิตภาคการเกษตร แต่ภาคปศุสัตว์ยังกระทบน้อย
.
ดังนั้นประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจเวลานี้ยังเป็นหลักพันล้านบาท แต่หากสถานการณ์มีความยืดเยื้อรุนแรงไปอีก 2-3 เดือนความเสียหายอาจถึงหลักหมื่นล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลชุดใหม่ต้องติดตามแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด
.
ด้านนายเทอดศักดิ์ เสริมศรี ประธานกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อผลผลิตยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ลดลงอย่างมาก ทำให้นํ้ายางลดลง อีกทั้งราคายางพาราก็ลดลง โดยในพื้นที่จังหวัดขายยางก้อนถ้วยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งได้ราคาเพียง 20-21 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ต่ำกว่าช่วงเปิดกรีดในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายังขายได้ถึง 30 บาท/กก. ซึ่งเจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทยในพื้นที่บอกเป็นผลจาก 5 บริษัทผู้ส่งออกยางรายใหญ่กดราคาอยากให้รัฐบาลใหม่ได้หาทางช่วยเหลือเร่งด่วน
.
ขณะที่นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่าในภาคอีสานซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิแหล่งใหญ่สุดของประเทศ ปกติจะปลูกข้าวนาปีช่วงเดือนสิงหาคม และไปเก็บเกี่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคมของปีหน้า แต่เวลานี้ห่วงเกษตรกรไม่มีนํ้าทำนา ที่ปลูกแล้วก็เสี่ยงเสียหาย ดังนั้นจึงคาดว่าเป้าหมายแผนการผลิตข้าวปีการผลิต 2562/2563 ที่กำหนดไว้ 34.16 ล้านตันข้าวเปลือกจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย