ตลาดบ้านระดับพรีเมียมราคา 12 ล้านบาทขึ้นไปยังโตต่อเนื่อง สิวารมณ์ ทำสถิติสูงสุด

252
0
Share:
ตลาด บ้านระดับพรีเมียม ราคา 12 ล้านบาทขึ้นไปยังโตต่อเนื่อง สิวารมณ์ ทำสถิติสูงสุด

นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส1/2566 ว่า บริษัทฯประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีรายได้รวมที่ 215.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (QoQ) ที่มีรายได้รวม 134 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 80.30 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 24.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 137.50 หรือ 14.02 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรสุทธิ 10.20 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 11.30 เมื่ออิงจากช่วงไตรมาส1/2565 อยู่ที่ร้อยละ 7.46 และมีกระแสเงินสดคงเหลือ ณ สิ้นไตรมาส1/2566 อยู่ที่ 30.19 ล้านบาท

โดยจากผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปรับตัวสูงขึ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการสร้างท็อปฟอร์มทำนิวไฮต่อเนื่อง และนับว่าเป็นการทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงความสำเร็จของยอดขายที่เพิ่มขึ้นที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยของกลุ่ม Real Demand เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยแบบ Premium Economy (ความคุ้มค่า)

สำหรับในปีนี้ SVR มีแผนขยายการพัฒนาโครงการเข้ามาในพื้นที่ใกล้โซน CBD ของกรุงเทพมากขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินค้า อีกทั้งยังขยายฐานกลุ่มลูกค้าเซกเมนต์ผู้อยู่อาศัยระดับบน ภายใต้การพัฒนาโครงการระดับพรีเมี่ยมบนบ้านระดับราคาที่สูงขึ้นแตะระดับ 12 ล้านบาท จากเดิมที่เราพัฒนาโครงการระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อยูนิต โดยมองว่าลูกค้าระดับดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ดังนั้นเชื่อว่า 3 โครงการที่เตรียมเปิดตัวในไตรมาส3 นี้ อาทิ 1).โครงการสิวารมณ์ ไฮด์ (บนทำเลวงแหวนกาญจนาภิเษก ) โครงการบ้านเดี่ยว ขนาด 100 ตารางวา จำนวน 29 ยูนิต มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท ระดับราคาขายที่ประมาณ 12 ล้านบาทต่อยูนิต โดยโครงการดังกล่าวเป็นการขยายเซกเมนต์ผู้อยู่อาศัยระดับบน พร้อมทั้งเชื่อว่าจะสามารถเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯได้อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม จากแผนกลยุทธ์แผนการขับเคลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,621 ล้านบาท จะส่งผลเชิงบวกต่อรายได้ที่จะเริ่มทยอยเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังทันที ส่งผลให้บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปีนี้เติบโตตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ภายใต้แนวโน้มสร้างสถิติ new high ใหม่จากปี2565 ที่มีรายได้รวม 726.15 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ก็จะยิ่งตอกย้ำการเติบโต สู่ระดับ High Growth อย่างยั่งยืนในอนาคต