ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งทะยานปิดเกือบ 500 จุด น้ำมันดิบปิดพุ่งเหนือ 75 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 35,719 จุด +492 จุด หรือ +1.40% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,686 จุด +95 จุด หรือ +2.07% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 15,686 จุด +461 จุด หรือ +3.03% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้นใน 2 วันติดต่อกันที่มากที่สุดในรอบ 1 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563

สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น สายการบิน สายการเดินเรือ นอกจากนี้ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนอาจไม่ทำให้เกิดภาวะการเจ็บป่วยรุนแรงตามที่ก่อนหน้านี้เป็นที่กังวลกัน นอกจากนี้ นักลงทุนประเมินการเริ่มต้นมาตรการทยอยยุติซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลในระบบการเงินสหรัฐอเมริกาเร็วกว่าที่กำหนดไว้

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 72.05 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.7% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 75.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.2%

สาเหตุจากนักลงทุนประเมินว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจอาจไม่เกิดขึ้นมาก หากโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนไม่ทำให้เกิดภาวะเจ็บป่วยรุนแรง หรือมีการเสียชีวิต นอกจากมีอาการปานกลางตามที่พบกันมาในช่วงกว่าหลายสัปดาห์ โดยมีการยืนยันทางจากสาธารณสุขประเทศแอฟริกาใต้ และนายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี่ ที่ปรึกษาระดับสูงด้านปฏิบัติการโรคระบาดโควิด-19 ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะกลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับกว่า 75 ดอลลาร์สหรัฐ

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,780 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ราคาไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มผ่อนคลาย ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะ 10 ปี ปรับลดลง และภาวะของการระบาดโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ยังคบพบการระบาดในหลายประเทศ